ว่ากันว่านี่คือมัลดีฟส์เมืองไทยที่จะทำให้คุณหัวใจละลายไปในพริบตา เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล แถมสตูลยังเพิ่งได้เป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกในประเทศไทยเสียด้วย จึงต้องไปเยือนเสียหน่อย
เราเดินทางโดยเครื่องบินจากกทม.ไปยังหาดใหญ่ราวชั่วโมงนิดๆ จากนั้นนั่งรถต่อไปสตูลที่ท่าเรือปากบาราอีกราวชั่วโมงครึ่งเป็นทอดที่ 2
มาถึงแล้วก็เข้าไปยังออฟฟิสของ สตูล ปากบารา สปีดโบ๊ท คลับ ซึ่งดูแลจัดการทริปนี้ให้ทั้งที่พัก การนำเที่ยว อาหาร ทั้งที่เกาะหลีเป๊ะและลังกาวี
จะมีคิวลงเรือ
นั่งเพลินๆกินลม
ได้เวลาเรือออกเราก็นั่งเรือราวชั่วโมงนึงก็มาแวะที่เกาะไข่ (เรือบางลำจะแวะเกาะตะรุเตาด้วย แต่ลำนี้ไม่ได้แวะ)
สวยจังเลย เกาะไข่ ซุ้มประตูหินธรรมชาติ เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล ตั้งอยู่ระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง
เสน่ห์ของเกาะไข่ อยู่ตรงประติมากรรมธรรมชาติอย่าง ซุ้มประตูหิน อันเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา มีความเชื่อว่าคู่รักคู่ใดได้ลอดซุ้มประตูหินนี้จะสมหวังในความรัก และครองคู่กันอย่างมีความสุข มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง เหมือนดังป้ายที่จารึกไว้หน้าซุ้มประตูหิน
ใช้เวลาอีกราวครึ่งชั่วโมงก็ถึงเกาะหลีเป๊ะ จุดเด่นของทางเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรายล้อมรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มนวลขาวเหมือนแป้ง
เกาะหลีเป๊ะ มีชายหาดที่สำคัญ ๆ อยู่ 4 หาด ได้แก่
หาดพัทยา หรือหาดบันดาหยา อยู่ทางตอนใต้ของเกาะ
หาดซันไรส์ อยู่ทางทิศตะวันออก ใกล้ๆ กับหมู่บ้านชาวเล
หาดคาร์มา อยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งหันหน้าเข้าเกาะอาดัง
หาดซันเซ็ท อยู่ทางทิศตะวันตก หันหน้าเข้ารับแสงอาทิตย์ ตามชื่อของหาด
ฤดูท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะเริ่มต้นเหมือนท่องเที่ยวทะเลอันดามันอื่น คือ ต้นเดือน พฤศจิกายน ถึง กลางเดือนพฤษภาคม
ชมน้ำทะเลใสแจ๋วจาก "อ่าวพัทยา" อันเป็นจุดจอดเรือนักท่องเที่ยว ที่นี่คือสรวงสวรรค์ของคนรักทะเลอย่างแท้จริง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนี้เกาะหลีเป๊ะจึงคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย เพราะความเป็นเกาะที่มีทุกสิ่งที่น่ารื่นรมย์อย่างครบรส ตั้งแต่ท้องฟ้าสีครามใสราวกระจกใต้ผืนฟ้าใส
ก่อนอื่นเอากระเป๋าไปเก็บที่บุหงา รีสอร์ท บนเกาะหลีเป๊ะ เป็นเจ้าของเดียวกับ สตูล ปากบารา สปีดโบ๊ท คลับ
ที่พักสวยเก๋มาก
แล้วแวะไปชมหาดสวยๆที่เป็นไฮไลท์ของเกาะหลีเป๊ะเลย นั่นก็คือ หาดของเมาเท่นท์รีสอร์ท ซึ่งมีเวิ้งอ่าวยืนเข้าไปในทะเล สวยไม่เหมือนที่ใดในเมืองไทย
หาดทรายขาวมาก
นั่งชมปะการังที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับผืนทราย
กลับมาทานอาหารทะเลสดๆแกงใต้อร่อยๆที่บุหงา
แล้วไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านช็อปปิ้งและความสนุกที่มาเติมสีสันให้ชาวเกาะ
ต้องไป ณ แลนด์มาร์กของเกาะ กม.0
มีเซเว่นสะดวกสบายให้เลือกซื้อ ราคาแพงกว่าบนฝั่งนิดหน่อย
มาถนนคนเดิน พลาดไม่ได้เลยกับร้าโรตี ชาชัก "เตอร์บิลัง" ที่ไม่ว่าจะช่วงเช้า ช่วงบ่าย ช่วงค่ำ ก็มีลูกค้าแวะเวียนตลอด ยิ่งช่วงเย็นจนถึงดึก ลูกค้าออกันแน่น
อาหย่อย
เราต้องไม่พลาดแล้วก็ชิมโรตีหลายแบบ
กับชาชักรสเด็ด
พลาดไม่ได้เลยทีเดียวกับไฮไลท์ของเกาะหลีเป๊ะ หาดซันเซ็ท หรือ Sunset beach เป็นหาดที่ี่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะหลีเป๊ะ หน้าหาดหันไปทางทิศตะวันตก
นับเป็นอีกจุดหนึ่งบนเกาะหลีเป๊ะที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม
หาดซันเซ็ทเป็นหาดที่มีขนาดเล็กที่สุดและมีที่พักอยู่น้อยกว่าหาดอื่นๆ เน้นบรรยากาศความเงียบสงบเป็นส่วนตัว ในเวลาที่พระอาทิตย์ตกคนมาชมกันคับคั่งมาก
วันต่อมาคือวันเดย์ทริปนั่งเรือเที่ยวเกาะ การท่องเที่ยวทางทะเลใน หมู่เกาะอาดัง - ราวี แบ่งเป็น 2 เส้นทางคือ 1. รอบเล็ก คือ เส้นทาง หาดทรายขาว (เกาะราวี) - เกาะหินงาม - เกาะอาดัง – ร่องน้ำจาบัง 2. รอบใหญ่ คือ เส้นทางร่องน้ำจาบัง – เกาะหินงาม - เกาะหินซ้อน - เกาะไผ่ - เกาะดง – เกาะรอกลอย - เกาะผึ้ง - หาดทรายขาว (เกาะราวี) - เกาะยาง – เกาะอาดัง
สามารถเช่าเหมาลำเรือประมงดัดแปลง (8 - 9 คน) รวมอาหารกลางวัน และอุปกรณ์ดำน้ำ เรือออกจากเกาะหลีเป๊ะ 8-9 โมงเช้า กลับถึงเกาะหลีเป๊ะ 4-5 โมงเย็น หรือจะกลับก่อนก็ได้
เราเริ่มเที่ยวที่เกาะหินงาม
สวยแปลกตา
หินแต่ละก้อนกลมมน
เวลาโดนน้ำและแสงสาดส่องยิ่งสวย
จากนั้นไปที่เกาะอาดัง
น้ำทะเลใสแจ๋วมาก
ก่อนไปที่เกาะราวี ซึ่งส่วนใหญ่ทัวร์จะมาพักทานอาหารกลางวันกันที่นี่
เราก็มาแวะพัก เดินเล่นชมขอนไม้ริมหาด เรือจอดเรียงราย
ไฮไลท์ของวันนี้คือมาแวะดำน้ำ
เราไปแถวร่องน้ำจาบัง อยู่ระหว่างเกาะราวี และเกาะหลีเป๊ะ
มีปะการังอ่อนหลากสี สวยงามมาก
ดำเพลินเลย
ปกติแล้วการชมปะการังอ่อนแบบนี้จะต้องดำน้ำลึก (Scuba divng) แต่ที่นี่ปะการังอ่อนอยู่ในระดับที่ตื้นมาก
การมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน - 15 พฤษภาคม ของทุกปี ที่เหลือเป็นหน้ามรสุมคลื่นลมทะเลแรง
จากเกาะหลีเป๊ะสามารถไปเที่ยวเกาะลังกาวี อัญมณีแห่งไทรบุรี ในประเทศมาเลเซีย ได้สะดวก มีตม.ของไทยอยู่หน้าบุหงา รีสอร์ทเลย
แล้วขึ้นเรือของของ สตูล ปาบารา สปีดโบ๊ท คลับ ซึ่งวิ่งไปยังท่าเรือเตลากา
ที่นี่เป็นท่าจอดเรือยอร์ชด้วย ลังกาวีห่างจากเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูลของประเทศไทยเพียง 4 กิโลเมตร อยู่ห่างจากเมืองกัวลาปะลิสประมาณ 30 กิโลเมตร และเมืองกัวลาเกอดะฮ์ 51 กิโลเมตร มีเกาะบริวารจำนวน 99 เกาะ และเป็นที่รู้จักของชาวไทยและมาเลเซียจากตำนานของมะห์สุหรี
มีร้านดิวตี้ฟรีที่มีสินค้าหลากหลายให้ซื้อ ใช้เงินบาทก็ได้
มาแวะเที่ยวลังกาวีแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เลยต้องเก็บที่สำคัญ จุดสำคัญที่สุดถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของลังกาวีคือ จตุรัสนกอินทรี หรือ ดาตารันลัง (Dataran Lang)
สัญลักษณ์ของลังกาวีที่ตั้งอยู่ริมทะเลคอยต้อนรับผู้มาเยือน ตามตำนานเล่าว่า “ลังกาวี” มาจากนกอินทรี หรือ “เฮอลัง” ในภาษามาเลย์ ส่วนคำว่า “กาวี” หมายถึง สีน้ำตาลแกมแดง ดังนั้น ลังกาวี จึงหมายถึง นกอินทรีสีน้ำตาลแกมแดง นั่นเอง
เที่ยวได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องกลับในเที่ยวเรือ 17.00น. ที่ออกจากท่าเรือกั้ว กลับมาที่ท่าเรือตำมะลังของไทย
นั่งเรือเฟอรี่ขนาดใหญ๋สะดวกสบาย
ขอบคุณคุณ สามารถ เจริญฤทธิ์ เจ้าของบริษัทสตูล ปากบารา สปีดโบ๊ท คลับ จำกัด ที่พาคณะเที่ยวทั้งที่หลีเป๊ะและลังกาวี ปัจจุบันบริษัทเป็นที่รู้จักในวงการเดินเรือของอันดามัน ที่เปิดเดินเรือเชื่อมโยงระหว่างเกาะต่างๆ จนปัจจุบันมีสำนักงานอยู่ใน 14 ออฟฟิสในอันดามัน ทั้งภูเก็ต พีพี ลันตา เกาะไหง เกาะมุก เกาะกระดาน บุโหลน หลีเป๊ะ และปากบารา สร้างการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างต่างๆ ปัจจุบันมีเรือสปีดโบ๊ทแบบ 3 เครื่องจำนวน 12 ลำ แบบ 2 เครื่อง 2 ลำ แบบ1 เครื่อง 2 ลำ และแบบเฟอรี่ 1 ลำ เริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2545
ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จังหวัดสตูล และนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสตูล รวมถึงเป็นกรรมการของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วย เรียกว่าสวมหมวกหลายใบเลยทีเดียว
เราตามเขาไปที่ลังกาวีเพื่อดูการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของ 2 ประเทศก็สะดวกมาก สามารถขึ้นเรือที่หลีเป๊ะ ไปลงที่ท่าเรือเตลากาของมาเลเซีย ซึ่งเป็นท่าจอดเรือยอร์ช
ส่วนขากลับมาไทยขึ้นเรือที่ท่าเรือหลักของลังกาวีคือท่าเรือกั้ว จากนั้นก็กลับมาขึ้นที่ท่าเรือตำมะลังของไทยได้เลย ที่เที่ยวของลังกาวีที่ไม่ควรพลาดคือจัตุรัสนกอินทรีหรือดาตารันลัง ลังกาวีเคเบิลคาร์ เป็นต้น
ค่าเรือจากท่าเรือปากบารา-หลีเป๊ะ ไป-กลับ 800 บาทต่อคน
ค่ารถตู้จากสนามบินไปท่าเรือปากบาราคนละ 250 บาท
ราคาดำน้ำหลีเป๊ะแบบวันเดย์ทริป 1,500 บาท รับได้ 1-4 คนรวมสน็อกเกิ้ลและอาหารกลางวัน(อาหารกล่อง) ไป 5 ที่ คือ เกาะหินงาม อาดัง ราวี เกาะยาง และร่องน้ำจาบัง
ส่วน ค่าเรือจากหลีเป๊ะไปลังกาวี 1,000 ต่อคน
บริษัท สตูล ปากบารา สปีด โบ๊ท คลับ โทร 082 222 1016 เว็บไซต์ http://www.spcthailand.com
ขอบคุณคุณมิ่งขวัญ เมธเมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเชีย ฮอลิเดย์ www.asiaholidaysagency.com ที่สนับสนุนการเดินทางตลอดทริปนี้
และคุณสุวดี ปาจรียางกูร ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร Sure2trips สนับสนุนตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
ทำให้ Travelista นักเดินทาง ได้เที่ยวสนุกตลอดทริป
จนกว่าจะพบกันใหม่ในทริปต่อไปนะคะ