ในท่ามกลางการเกิดใหม่ของบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวราวกับดอกเห็ด เพราะกลายเป็นความสนุกจากการบอกเล่าประสบการณ์การเดินทาง ทั้งยังกลายเป็นอาชีพใหม่ได้ด้วย
Travelista นักเดินทาง นั่งคุยเรื่องราวของบล็อกเกอร์ดัง ที่ความดังของเขานั้น มิใช่เพียงการเดินมาถูกทาง หากยังมีแนวคิดและไอเดียที่ดีด้วย ทำให้วันนี้เขาอยู่ในท็อปเทนบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวของเมืองไทย แทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในอันดับ 1 เสียด้วย
เขาคือ เติ้ล หรือ พชร เกรียงเกร็ด แห่งเพจ แบกกล้องเที่ยว ที่วันนี้มีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้านคน
สถานที่นั่งคุยของเรากับเขาเก๋ไม่เหมือนใคร เพราะพูดคุยกันในรถไฟความเร็วสูงของรัสเซีย ที่วิ่งระหว่างเมืองเซ้นต์ปีเตอร์สเบิร์กกลับเข้าไปที่มอสโคว์ ระหว่างการไปทริปรัสเซียด้วยกัน จากการเชื้อเชิญของการบินไทย
เติ้ลเป็นหนุ่มที่มองดูแล้วอบอุ่น การพูดจาของเขาเป็นกันเอง
การเริ่มต้นทำเพจท่องเที่ยวของเขานั้นมาจากความตั้งใจที่จะลาออกจากงานเพียง 3 เดือน เพื่อเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศ และถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ แล้วค่อยกลับไปทำงานใหม่ แต่จนวันนี้เขาก็ยังไม่ได้กลับเข้าไปทำงานอีกเลย ....เพราะการสร้างเพจในวันนั้น ทำให้กลายเป็นอาชีพไปเสียแล้ว ทั้งยังมีรายได้ดีเสียด้วย
“ผมเริ่มทำเพจมีคนกด Like อยู่ 19 คน เพื่อนๆด้วยกันเองนี่แหละกด Like ให้ และเริ่มเขียนกระทู้ใน Pantip แต่พอกระทู้ออกไป ผลตอบรับดีมาก มีการถูกแชร์ออกไปเกือบแสน พอสิ้นเดือนนั้นมีคนกด Like ในเพจเข้ามาเกือบหมื่นคน ผมดีใจมาก”
นี่เป็นเพียงบทเริ่มต้น หลังจากนั้นเขาก็เริ่มการเดินทางท่องเที่ยวมาเรื่อยๆ แรกๆยังไม่มีรายได้อะไร รับจ้างถ่ายภาพตามงานแต่งงานบ้าง รับถ่ายสินค้าทั่วไปไปบ้าง รายได้ก็ไม่ดีนัก เรียกว่าไม่พอเลยดีกว่า เลยมาทำอีกอาชีพคือเปิดทำทัวร์เล็กๆ เพียง 1 รถตู้ พาไปเที่ยวแค่ 9 คน “แต่ก็มีผลตอบรับดีนะ ทัวร์ของผมเนี่ยมีคนมาเต็มรถ และก็ได้ทำให้เจอแฟนด้วย นั่นคือ เจน เขาเป็นลูกทัวร์ผมมาก่อน”
แต่โพสท์ที่สร้างความแรงมากที่สุดคือ คอนเท้นท์ที่ไปวังเวียงเมื่อปีที่แล้ว มีคนแชร์จากโพสท์นั้นออกไปเป็นแสนในวันเดียว ทำให้มีแฟนเพจเพิ่มจาก 3 หมื่นเป็น 1 แสนคนในวันเดียวเช่นกัน
“เราเขียนโพสท์แบบที่ให้ข้อมูลการไปเที่ยวอย่างง่ายๆ เพราะวังเวียงในลาวนั้น อยู่ใกล้บ้านเรา ใช้งบไม่เยอะ ไปได้ง่าย เราบอกวิธีการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว ให้รายละเอียดไปด้วย”
แบกกล้องเที่ยวได้ชื่อว่าเป็นผู้นำในการโพสท์รูปแนวใหม่ เติ้ลเป็นคนแรกๆที่โพสท์รูปแนวเป็นอัลบั้ม โชว์รูปสวยพร้อมใส่แคปชั่นหรือคำบรรยายภาพบนรูปหน้าปก มีรูปที่สวยงามชวนให้อยากไปเที่ยวตาม จนปัจจุบันใครต่อใครต่างก็โพสท์รูปในแนวนี้เยอะ
พร้อมกันนี้เขาทำเพจแนวคู่รัก คือการเดินทางไปท่องเที่ยวพร้อมกับเจน (เจนจิรา ช่อมรัมย์) ซึ่งกำลังจะกลายเป็นภรรยาของเขา โดยจะมีงานมงคลสมรสในเดือนมกราคมนี้
หลังจากนั้นการโพสท์รูปสถานที่ท่องเที่ยวของเขาอีกหลายต่อหลายครั้งก็โดนใจผู้ติดตาม ทำให้จำนวนผู้ติดตามเพิ่มจนครบ 1 ล้านคน เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเขาจำได้แม่นว่าคือวันที่ 24 ธันวาคม 2559 นั่นทำให้เขามีรายได้จากการโฆษณาให้สินค้าและบริการต่างๆ แต่ก็ยังมีจุดยืนว่าต้องเป็นเพจที่เกี่ยวกับเรื่องเที่ยว ไม่ได้เป็นเพจขายของออนไลน์ทั่วไป
เติ้ลมีงานรีวิวเดือนละ 8-10 งาน นั่นทำให้เขามีอาชีพใหม่ที่เลี้ยงตัวเองได้ ลูกค้าก็มีความหลากหลาย ทั้งสายการบิน โรงแรม แบรนด์ใหญ่ๆ เสื้อผ้า รองเท้า ไอที สินค้าไลฟ์สไตล์
“เรียกว่าสิ่งนี้พลิกชีวิตผมไปเลย เป้าหมายต่อไปผมอยากทำเพจให้ดี ทำเวบไซต์ให้ดี เพราะเราก็รู้ว่าคนทำเพจก็เยอะ บล็อกเกอร์หน้าใหม่ที่ทำเพจดีๆก็เยอะ อนาคตผมอยากเปิดเป็นเอเยนซี่ออนไลน์ ซึ่งไม่เพียงรับงานเอง แต่จะป้อนงานให้น้องๆบล็อกเกอร์คนอื่นด้วย”
แม้จะมีรายได้เข้ามาเป็นกอบเป็นกำ แต่เติ้ลก็ไม่ลืมตัวหรือหลงระเริงไปกับเงินทองเหล่านี้ เขามองว่างานที่ทำต้องมีความสุข ความชอบ เรารักเมืองไทย อยากโปรโมทเมืองไทย ผมจะวางแพลนเที่ยวไทย 80 เปอร์เซ็นต์ เที่ยวนอกอีก 20 เปอร์เซ็นต์ บ้านเรามีสถานที่สวยๆอีกเยอะ
คำแนะนำของน้องๆรุ่นใหม่ที่จะมาทำเพจท่องเที่ยว เติ้ลบอกว่านอกจากใจรัก ถ่ายรูปสวย งานเขียนดีแล้ว การโพสท์รูปอาจจะต้องคำนึงถึงความชอบของผู้บริโภค เช่น เทรนด์ยุคนี้ชอบที่พักไม่แพง อยู่ริมหน้าผา มีหมอกสวยๆ อยู่ริมน้ำ หรือริมทะเล การถ่ายรูปก็ต้องถ่ายทอดออกมาให้น่าสนใจ ต้องทำให้คนอยากไป คนมองรูปแล้ว ว้าวกันเลยทีเดียว เรียกว่าไม่เพียงเป็นบล็อกเกอร์แต่ต้องเป็นครีเอทีฟด้วย
แม้แต่เพจของเขาเองก็ต้องครีเอทรูปตลอดเวลา หลายคนมักมองเห็นว่ารูปถ่ายจะมีเจนอยู่ในรูป แต่ทำไมต้องหันหลังแทบทุกครั้ง นั่นเป็นเพราะเติ้ลอยากถ่ายรูปเจนออกมา แล้วให้คนมองว่าเหมือนกับคนดูเข้าไปอยู่ตรงนั้น จะได้ความรู้สึกเหมือนไปเที่ยวจริงๆ
ก่อนจบการพูดคุย เติ้ลมีข้อแนะนำของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำเพจท่องเที่ยวว่า ต้องดูว่าเราชอบอาชีพนี้จริงๆไหม บางคนคิดว่าเข้ามาแล้วมีคนเชิญเที่ยวฟรี มีรายได้ แต่ก็ไม่เสมอไป แรกๆตนเคยท้อมาเกือบ 2 ปี งานก็มีบ้างไม่มีบ้าง แต่เมื่อเพจโดนใจผู้คนและขึ้นไปอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว จึงทำให้มีงานเข้ามา ทุกวันนี้แม้จะมีใครมองว่าเติ้ลคือแชมป์ในวงการ แต่การรักษาตำแหน่งอาจยากยิ่งกว่า
มีใครคนหนึ่งเคยกล่าวว่า ไม่มีคำว่าสิ้นสุดสำหรับการเดินทางที่เราสัมผัสมันได้ ถ้าเพียงเราเปิดดวงตาค้นหาความงดงามเหล่านั้น เช่นเดียวกับชายหนุ่มผู้นี้ เติ้ลแห่งแบกกล้องเที่ยวที่ยังคงเดินทางคนหาความฝันของเขาต่อไป
ขอบคุณภาพ จากเพจ แบกกล้องเที่ยว
บทสัมภาษณ์โดย สาธิตา โสรัสสะ บล็อกเกอร์ Travelista นักเดินทาง ประธานมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ อดีตหัวหน้าข่าวเครือเนชั่น นักข่าวสาวที่อยู่ในวงการท่องเที่ยวกว่า 30 ปี