มาเที่ยวรัสเซียกับการบินไทย ประเทศที่อลังการงานสร้าง สถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่ สวยงาม เคยถูกปกครองโดยระบอบราชวงศ์ โดยเฉพาะราชวงศ์โรมานอฟทำให้ประเทศนี้เกรียงไกรและยิ่งใหญ่ จนเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลก โดยเฉพาะ 2 เมืองสำคัญอย่างมอสโคว์-เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีที่เที่ยวมากมาย ล้วนมีเรื่องราวจากอดีต เราลองมาชม 30 สถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่กัน
(ขอบคุณภาพแผนที่จากเพจเที่ยวรัสเซียดอทคอม)
เริ่มจากมอสโคว์ เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาริมแม่น้ำมอสควา (Moskva) โดยเจ้าชายยูริ โดลการูคิน ผู้ทรงเป็นต้นตระกูลแห่งราชวงศ์รัสเซีย มีการสร้างป้อมปราการขึ้นมากมาย และได้กลายเป็นจุดกำเนิดของเครมลิน อันยิ่งใหญ่ แม้จะมีปราการแข็งแกร่ง แต่อาณาจักรรัสเซียก็ยังถูกบุกยึดเข้าครอบโดยกองทัพมองโกเลียของเจงกีสข่าน จนกระทั่งในรัชสมัยของพระเจ้าอีวานที่ 3 จึงได้ปลดปล่อยรัสเซียเป็นอิสรภาพได้สำเร็จ พร้อมทั้งสถาปนากรุงมอสโคว์เป็นเมืองหลวง นับแต่นั้นรัสเซียก็อยู่ภายใต้การปกครองแห่งราชวงศ์โรมานอฟ จนเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ขึ้นโดยวลาดิมีร์ เลนิน ใน ปี ค.ศ.1917 ทำให้แปรเปลี่ยนมาเป็นสหภาพโซเวียตในระบบสังคมนิยม และครองความเป็นประเทศมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ก่อนจะล่มสลายในปี ค.ศ.1991
มอสโคว์เป็นเมืองหลวงทั้งในปัจจุบัน และอดีตของสหภาพโซเวียต ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแถบยุโรป ด้วยพื้นที่ 417.4 ตารางไมล์ โดยจุดศูนย์กลางอยู่ที่พระราชวัง เครมลิน หนึ่งในมรดกโลก มีมหาวิหารเซนต์บาซิล (St. Basil’ Cathedral) สถาปัตยกรรมรูปทรงแปดเหลี่ยมเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง เมืองหลวงแห่งนี้ เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ศาสนา การเงิน การศึกษา การขนส่ง และการคมนาคมขนาดใหญ่
ปัจจุบันมอสโคว์เป็นมหานครที่รุ่งเรืองและมีความเป็นสากล นับตั้งแต่การล่มสลายของประเทศหลังม่านเหล็ก นักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลได้เดินทางมาเยือนกรุงมอสโกเป็นประจำทุกปี เพื่อสัมผัสกับศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของเมือง
ลองมาชม 15 ที่เที่ยวของมอสโคว์ที่ไม่ควรพลาด
1 มหาวิหารเซนต์บาซิล (Saint Basil's Cathedral) เป็นอาสนวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย สร้างโดยซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย เพื่อฉลองชัยชนะเหนือพวกมองโกลที่กรีธาทัพมาเมืองคาซาน เมื่อปี ค.ศ. 1552 ผลจากชัยชนะครั้งนี้ทำให้รัสเซียสามารถรวมชาติได้เป็นปึกแผ่น จึงสร้างมหาวิหารแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1555
มหาวิหารเซนต์บาซิลมีรูปทรงที่ไม่เหมือนโบสถ์อื่น คือมีโดม 8 โดมล้อมรอบโดมที่ 9 ที่อยู่ตรงกลาง ทำให้อาคารมีรูปทรงแปดเหลี่ยม ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียโบราณอันได้รับอิทธิพลมาจากไบแซนไทน์ที่เป็นโดมทรงหัวหอมกับสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ารัสเซียนกอธิก หอคอยสูงรูปกระโจมเป็นอิทธิพลจากยุโรปตะวันตก ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นหอคอยสูงรูปแท่งเทียนกำลังลุกไหม้บนปลายลำเทียน ส่งความโชติช่วงชัชวาลย์เป็นเครื่องบูชาเทพเจ้าบนสวรรค์
มหาวิหารนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อปอสต์นิค ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) และด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมจึงทำให้มีเรื่องเล่าสืบต่อกันว่า ซาร์อีวานที่ 4 ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มาก จึงมีคำสั่งให้ปูนบำเหน็จแก่สถาปนิกผู้ออกแบบด้วยการควักดวงตาทั้งสอง เพื่อไม่ให้สถาปนิกผู้นั้นสามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก การกระทำในครั้งนั้นของพระเจ้าอีวานที่ 4 จึงเป็นที่มาของสมญานามอีวานผู้โหดร้าย (Ivan The Terrible)
บริเวณใกล้กันกับมหาวิหารเซนต์บาซิลขนาบข้างด้วยกำแพงเครมลิน เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานเลนินหรือสุสานเลนิน ซึ่งเก็บรักษาร่างของวลาดีมีร์ เลนิน ผู้นำคนสำคัญของคอมมิวนิสต์ และเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปเคารพศพได้
2 จัตุรัสแดง จัตุรัสกลางเมืองของของกรุงมอสโคว์ มีขนาดกว้าง 70 เมตร ยาว 695 เมตร มีขนาดพื้นที่รวม 23,100 ตารางเมตร ถือได้ว่าเป็นเซ็นเตอร์ของเมือง เพราะถนนสายสำคัญทุกสายของกรุงมอสโคว์จะวิ่งตรงออกจากจัตุรัสแดงแห่งนี้
จัตุรัสแดงยังเป็นสถานที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์เบซิล และสุสานวลาดิมีร์ เลนินอีกด้วย ชื่อจัตุรัสแดงมักมีคนนึกว่า "แดง" ในชื่อจัตุรัส มาจากสีของคอมมิวนิสต์ หรือสีของอิฐในบริเวณนั้นที่เป็นสีแดง แต่แท้จริงแล้วชื่อจัตุรัสแดง มาจากภาษารัสเซียคำว่า красный (krásnyj) ซึ่งในภาษารัสเซียดั้งเดิมมีความหมายว่า สวยงาม ในขณะที่ภาษารัสเซียสมัยใหม่ แปลว่าสีแดงซึ่งเป็นสถานที่สำคัญตั้งอยู่กลางใจเมืองของมอสโคว์ขึ้นชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่สวยงามที่สุดในโลก
นี่คือสถานที่เก็บศพเลนิน สร้างด้วยหินแกรนิต และหินอ่อนนับล้านชิ้น ตอกลงบนพื้นจนกลายเป็นลานหินโมเสกเป็นพื้นที่ลานกว้าง ทางด้านหน้าจัตุรัสแดงนั้น เป็นที่ตั้งของกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซีย สังเกตุได้จากที่พื้นถนนจะมีสัญลักษณเป็นวงกลม และภายในวงกลมนี้เองก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปยืนกลางวงกลมนั้นและโยนเศษเหรียญข้ามไหล่ตัวเอง ไปด้านหลังเพื่ออธิษฐานให้ได้กลับมาที่มอสโคว์อีกครั้ง ลานกว้างของจัตุรัสแดงทำหน้าที่เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ต่างๆ ของรัสเซียมาหลายยุคหลายสมัย
3 พระราชวังเครมลิน ด้วยสถาปัตยกรรมบาโรก ออกแบบโดยรัสเตรลลี และคริสตจักรนักบุญจอห์นแบ็พทิสต์ นับเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของเมืองหลวง และเป็นหัวใจของรัสเซีย
เครมลิน ในภาษารัสเซียนั้น มีความหมายแปลว่าป้อมปราการ ซึ่งภายนั้นก็จะประกอบไปด้วยพระราชวัง วิหารสำคัญๆ และที่ทำการของรัฐบาลต่างๆ
มีปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ (Tsar Cannon) สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1586 ว่ากันว่าเป็นปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยาว 5.34 เมตร หนัก 40 ตัน แต่ยังไม่เคยถูกใช้ในสงครามมาก่อน
และระฆังของพระเจ้าซาร์ (The Tsar Bell) เป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 6.14เมตร มีรัศมี 6.6 เมตร หนัก 200 ตัน ซึ่งบางส่วนของระฆังได้แตกออก
และยังมีจัตุรัสวิหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารหรือโบสถ์ 3 หลังที่สำคัญ นั่นก็คือ โบสถ์อันนันซิเอชั่น (Cathedral of the Annunciation) โบสถ์อาร์คาเกล (Cathedral of St. Michael the Archangel) และโบสถ์ที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในเครมลินก็คือ Cathedral of The Dormition หรือรู้จักกันในชื่อโบสถ์อัสสัมชัน (Assumption) สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระแม่มารี ผู้ให้กำเนิดพระเยซู และยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญต่างๆ
4 อาร์เมอรี่แชมเบอร์ พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย ก่อตั้งมาตั้งแต่ยุคราชวงศ์โรมานอฟ อยู่ภายในปราการแห่งเครมลิน พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่ แชมเบอร์สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยบรรดาของเก่าล้ำค่าหาชมยาก สะท้อนให้เห็นถึงความพิถีพิถัน วิจิตรบรรจง ความละเอียดประณีตของช่างยุคโบราณ และความมั่งคั่งแห่งราชวงศ์ รวมแล้วมากกว่า 4,000 ชิ้น
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดเก็บมรดกทางประวัติศาสตร์ไว้ในตัวอาคารสองชั้น บริเวณชั้นบนจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนา และข้าวของล้ำค่า อาทิ คัมภีร์โบราณ จอกศักดิ์สิทธิ์ ชุดเครื่องเงิน ชุดเครื่องใช้บนโต๊ะเสวย รวมถึงไข่ Faberge ซึ่งเป็นไข่อีสเตอร์แสนงดงามที่ทำขึ้นเพื่อถวายแด่พระเจ้าซาร์วันอีสเตอร์
ชั้นล่างของอาคารมีการจัดแสดงเครื่องเครื่องทรง อาทิ ชุดในพิธีพระบรมราชาภิเษก ชุดในพระราชพิธีอภิเษกสมรส รวมถึงเครื่องแต่งกายของบรรดาขุนนางชั้นสูง นอกจากนี้ ยังมีราชรถคันหรู บัลลังก์งาช้างประดับเพชรของพระเจ้าอีวานที่ 4 มงกุฎโมนามาดที่พระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ต้องสวมในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งไม่ควรพลาดในความอลังการที่หาค่ามิได้
แต่ที่นี่ห้ามถ่ายรูป ขอบคุณรูปจาก Official Page ของ อาร์เมอรี่แชมเบอร์
5 มหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์ หรือที่เรียกกันว่า มหาวิหารโดมทอง (St. Saviour Cathedral) เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียและสูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Moskva สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ ที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและแสดงกตัญญุตาแด่พระเป็นเจ้าที่ทรงช่วยปกป้องรัสเซียให้รอดพ้นจากสงครามนโปเลียน โดยมหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 45 ปี
ในสมัยของสตาลิน เคยสั่งให้ทุบทำลายมหาวิหารแห่งนี้ จนกระทั่งในสมัยประธานาธิบดีบอริส เยลซิน จึงได้มีการบูรณะขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งด้วยเงินบริจาคและพลังความศรัทธาของผู้คน ดังนั้นที่นี่จึงเป็นที่รักและศูนย์รวมจิตใจของประชาชน มหาวิหารโดมทองแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีกรรมที่สำคัญระดับชาติทางคริสตศาสนาของประเทศรัสเซีย
6 ล่องเรือเเม่น้ำมอสควา ไปเที่ยวหลายๆประเทศต้องล่องเรือ เพื่อให้เห็นบรรยากาศวิถีชีวิตของและสถาปัตยกรรมริมน้ำ เหมือนกับไปอังกฤษต้องล่องเรือเม่น้ำเทมส์ ฝรั่งเศสล่องเรือแม่น้ำแซนด์ส อิตาลีล่องเรือกอนโดล่าชมเวนิส เนเธอร์เเลนด์ล่องเรือหลังคากระจกชมอัมสเตอร์ดัม ฮังการีล่องเรือชมแม่น้ำดานูป
รัสเซียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการท่องเที่ยวในรูปเเบบการล่องเรือเช่นกัน Moskva River เป็นเเม่น้ำสายหลักของกรุงมอสโก เหมือนเเม่น้ำเนวาซึ่งเป็นเเม่น้ำสายหลักของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีเรือบริการในเเม่น้ำมอสควา
เรือเริ่มจากท่าเรือต้องเดินผ่านสวนกอร์กี้ หรือ Gorky Central Park of Culture and Leisure เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการใช้เวลาในช่วงวันหยุดไปกับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ แล้วล่องไปตามเเม่น้ำมอสควา ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอาทิเช่น อาร์มชี โนโววินี ,มหาวิทยาลัยมอสโคว์ เนินเขา Sparrow สวนสาธารณะกอร์กี้ ตึกกระทรวงต่างประเทศ Cathedral of Christ The Redeemer เครมลิน จัตุรัสเเดง เป็นต้น
7 ทางเดินลอยฟ้า ยื่นเข้าไปในแม่น้ำมอสควา เป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ของมอสโคว์ เพิ่งเปิดได้ราว 3 เดือนเท่านั้น ประธานาธิบดีปูตินอยากให้ชาวรัสเซียและนักท่องเที่ยว ได้มีสถานที่พักผ่อน เลยจัดทำสถานที่แห่งนี้ขึ้นมา เป็นจุดแลนด์มาร์คอีกแห่งให้ชมวิวเมืองและแม่น้ำมอสควาอย่างสวยงาม
8 สาวร่างยักษ์หรือตึกสูงเสียดฟ้า 7 ตึกของมอสโคว์ 7 สาวพี่น้อง หรือ Seven Sisters เป็นชื่อในภาษาอังกฤษของอาคารสูงสไตล์สตาลิน รูปร่างหน้าตาคล้ายๆกัน 7 แห่งในกรุงมอสโก ยิ่งใหญ่อลังการมาก เหมือนปราสาทในเทพนิยาย
อาคารเหล่านี้ เริ่มการก่อสร้างในช่วงยุคท้ายๆของสตาลิน คือช่วงปี 1947 - 1953 พวกมันเป็นการผสมผสานกันของศิลปะแบบรัสเซียนบาร็อคและโกธิค ขณะที่เทคโนโลยีการก่อสร้างใช้แบบอเมริกัน
โครงการสมัยสตาลินนี้ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อยกระดับมอสโกไปสู่หลังคาโลก ใหญ่โตที่สุดคือ Moscow State University สูงประมาณ 240 เมตรและมีดาวดวงยักษ์อยู่บนยอดตึก มหาวิทยาลัยมอสโกเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในรัสเซีย ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1755 ผู้ก่อตั้งคือ Mikhail Lomonosov เป็นมหาวิทยาลัยที่มีอาคารเรียนที่สูงที่สุดในโลก มีห้องต่างๆ ถึง 740,000 ห้อง ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยก็ยังถือเป็นห้องสมุดมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียอีกด้วย มีหนังสือกว่า 9 ล้านเล่ม
9 ตลาดอิสไมโลว่า หรือ จตุจักรแห่งประเทศเทศรัสเซีย ตลาดนี้เป็นศูนย์กลางทางการค้าของที่ระลึก และของเก่า ของสะสมขนาดใหญ่แห่งกรุงมอสโคว์ ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ Partisanskaya อยู่ทางตะวันออกของกรุงมอสโคว์ ราคาถูกมาก และยังมีสินค้าให้เลือกหลากหลายคุณภาพและราคา แม่ค้าพ่อค้าส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด และตลาดนี้ก็เปิดอย่างเต็มรูปแบบในวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนใครอยากได้ในปริมาณมากๆ ให้มาวันพุธ เพราะเป็นวันค้าส่ง
ของช้อปที่ไม่ควรพลาด ตุ๊กตาแม่ลูกดก แบบซ้อนกันหลายตัว มีสีสันสวยงาม ราคาไม่แพงนัก นอกจากครบชุดใหญ่เป็นหลายสิบตัว ราคาแตกต่าง กันไป (แผงลอยในตลาดราคาถูก แต่คุณภาพต่ำ แต่ตามร้านขายนักท่องเที่ยวราคาแพงกว่า แต่ฝีมือปราณีต)
10 ประตูชัย เป็นเครื่องเตือนใจอันยิ่งใหญ่ถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของรัสเซียในด้านการทหารที่ทรงพลังและแข็งแกร่ง ประตูชัยของมอสโกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะทางทหารเช่นเดียวกับประตูชัยของโรมสมัยโบราณ เดินรอบๆ อนุสาวรีย์เพื่อชมประติมากรรมและภาพปั้นนูนและลองทายว่าแต่ละส่วนแสดงถึงอะไร
ประตูชัยนี้แสดงถึงจุดเปลี่ยนของรัสเซียในด้านการรำลึกถึงความสำเร็จ ธรรมเนียมแต่เดิมคือการสร้างอาคารทางศาสนา แต่พระเจ้าปีเตอร์มหาราชได้นำประเทศเข้าสู่แนวทางปฏิบัติใหม่ด้วยการสร้างประตูชัย ประตูนี้อุทิศให้แก่สงครามรักชาติที่สู้กับจักรพรรดินโปเลียนเมื่อปี 1812 แต่เดิมประตูชัยนี้ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Tverskaya Zastava แต่ปัจจุบันย้ายมาที่จัตุรัส Pobedy
11 ละครสัตว์รัสเซีย หลายๆคนที่มาเยือนรัสเซียคงอยากจะมาสัมผัสบรรยากาศของละครสัตว์ การแสดงที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ละครสัตว์รัสเซียเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในยุคสมัยที่ยังเป็นสหภาพโซเวียตอยู่ เนื่องจากในตอนนั้นทีมคณะละครสัตว์ต่างๆได้รวบรวมการแสดงที่สุดยอดของตัวเอง และพากันไปเปิดการแสดงที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยตอนนั้นได้ใช้ชื่อว่า The Moscow Circus ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก
การแสดงของละครสัตว์รัสเซียนั้นไม่เพียงแต่มีการแสดงจากสัตว์ต่างๆ แต่ยังมีการแสดงจากตัวตลก นักกายกรรมอีกด้วย ทุกวันนี้ การแสดงละครสัตว์ของรัสเซียก็ยังคงเป็นที่นิยมอยู่ การแสดงจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆตามฤดูกาล ในปัจจุบันที่มอสโกมี 2 โรงละครสัตว์ 1. The Old Moscow Circus หรือ Niculin Circus ตั้งอยู่ที่ Metro Tsvetnoy Bulvar/ Trubnaya 2. The Great Moscow Circus on Vernadsky Avenue หรือ Bolshoi Circus ตั้งอยู่ที่ Metro Universitet
12 โคโลเมนสโกเย พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และเขตอนุรักษ์ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำ Moskva ได้อย่างชัดเจน โดยที่นี่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พักตากอากาศในชนบทสำหรับเหล่าราชวงศ์มาก่อน แต่ปัจจุบันนี้ที่นี่ได้กลายเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไปแล้ว ด้วยเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมหลายแห่ง นับตั้งแต่โบสถ์ Church of Ascension ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก
รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ของพระราชวังไม้อันทรงคุณค่า ท่ามกลางบรรยากาศกลางแจ้งบนหญ้าอันเขียวขจี มีชุดราชสำนักรัสเซียให้นักท่องเที่ยวได้ใส่ด้วย
13 เดินเล่นสถานีรถไฟใต้ดินของมอสโคที่สวยที่สุดในโลก ต้องเดินชม 4สถานี 1 สถานีวิคทอรีพาร์ค 2 สถานีเคียฟสกายา 3 สถานีโนโวสลาโบสกายา ตกแต่งด้วยสเตนกลาส 4 ไฮไลท์ที่สุดคือสถานีคอมซามนสกายาเหมือนท้องพระโรงพระราชวัง
สถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโค ถือได้ว่าเป็นระบบขนส่งรถไฟฟ้าใต้ดินที่ไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารเท่านั้น แต่ยังถือได้ว่ารถไฟฟ้าใต้ดินมอสโคว์เป็นระบบ รถไฟฟ้าใต้ดินที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลก จนได้ชื่อว่าเปรียบเสมือนพระราชวังของประชาชน Palaces for the People โดยสตาลินสั่งไว้ว่า ต้องทำให้ผู้โดยสารหยุดมองและชื่นชมความงาม ดุจดังชื่นชมพระอาทิตย์ ดังนั้นผนังจึงถูกสร้างจากหินอ่อน และมีเพดานสูง สถาปัตยกรรมสุดอลังการงานสร้างขนาดนี้ วิจิตรบรรจงและปราณีต โดยเฉลี่ยจะมีผู้โดยสารประมาณ 7 ล้านถึง 9 ล้านคนต่อวัน โดยมีทั้งหมด 12 สาย 196 สถานี
สถาปัตยกรรมที่นำมาตกแต่งภายในสถานีนั้นเป็นลักษณะของโมนูเมนทัล อาร์ต ( monumental art ) คือลักษณะของงานศิลปะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงคุณความดี ของวีรบุรุษและการสรรเสริญถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกร ซึ่งจะสื่อออกมาในรูปของงานปั้น รูปหล่อ ภาพสลักนูนต่ำ ภาพวาดประดับลวดลายแบบโมเสกดังเช่นภาพประดับผนังที่ สถานีคอมซามนสกายา ( Komsomolskaya ) บริเวณผนังสองฝั่งก่อนเข้าสู่ทางเดินเชื่อมเปลี่ยนสายการเดินรถของสถานีคอมซาโมลสกายานั้นมีแผงภาพขนาดใหญ่ตกแต่งในลักษณะลวดลายสีแบบมาจอลิกาคือ แผ่นกระเบื้องเคลือบหลากสีนำมาเรียงต่อกันเป็นภาพ ภายในภาพนั้นแสดงเหตุการณ์ในขณะที่คนงานกำลังช่วยกันก่อสร้างรถไฟฟ้า
14 ห้างสรรพสินค้ากุม ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงมอสโก เป็นอีกสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองนี้ ห้างสรรพสินค้ากุม ก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1895 มีความสวยงามและโดดเด่นมากลักษณะชองตัวอาคารเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีร้านค้าเปิดให้บริการมากมาย ค่อนข้างเป็นแบรนด์หรู มีการจำหน่ายสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภคเช่น เสื้อผ้า ของใช้ในครัวเรือน สินค้าที่มีชื่อมียี่ห้อ เครื่องสำอาง น้ำหอม และสินค้าที่เป็นประเภทของที่ระลึก
15 ถนนอารบัต (Arabat Street) ถนนนี้ปรากฏมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในอดีตเป็นที่อยู่ของชนชั้นขุนนาง และศิลปินที่มีผู้อุปถัมภ์ ต่อมาในสมัยสหภาพโซเวียต ถนนอารบัตเป็นย่านที่พักของสมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ ปัจจุบันถนนอารบัต เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัสเซีย เป็นแหล่งของศิลปิน จิตรกร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ศูนย์วัฒนธรรม และโรงละคร เป็นต้น เดินเล่นแล้วไปทานอาหารที่ฮาร์ดร็อค คาเฟ่ หรือที่แมคโดนัลด์ก็ได้ ปิดท้ายวัน
ขอบคุณการบินไทยที่เชื้อเชิญมาเที่ยวมากมายในมอสโคว์ ตอนนี้การบินไทยบินกรุงเทพฯ – มอสโกสัปดาห์ละ 4 วัน ทุกวันจันทร์ พุธ พฤหัสบดี เสาร์ ลองไปเที่ยวกันนะคะ แล้วจะพบว่าเมืองนี้ช่างอะเมซิ่งมาก
ขอบคุณที่ติดตามข่าวสารของ Travelista นักเดินทาง นักข่าวสาวที่อยู่ในวงการท่องเที่ยวกว่า 30 ปี