สมาคมด้านการท่องเที่ยว แนะผู้ประกอบการ เร่งส่งเสริมอาหารพื้นถิ่นเป็นจุดขายใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ เผยแหล่งท่องเที่ยวตัวอย่าง มีโอกาสสูงตามกระแสนิยมท่องเที่ยวชุมชนอย่างรับผิดชอบ
จากงานวิจัยด้านการท่องเที่ยวหลายชิ้น ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศพบว่า การท่องเที่ยวชุมชนกำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วไป และกระแสนี้กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย
เพื่อเป็นการปรับตัวรองรับแนวโน้มดังกล่าว องค์การการท่องเที่ยวโลก หรือ World Tourism Organization (UNTWO) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรกลางสนับสนุนการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ได้เสนอแนะผู้ประกอบการ เร่งพัฒนาสินค้าท้องถิ่น รวมทั้งอาหารประจำพื้นที่ ให้เป็นสินค้าใหม่ด้านการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวชี้ว่า แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการท่องเที่ยว รวมถึงรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) หรือ รางวัลกินรีของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีโอกาสสูงในการที่จะเพิ่มสินค้าอื่นๆพ่วงเข้าไป ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีจุดขายที่แตกต่างกันออกไป
นายซูรับ โพโลลิคาซวิลี (Zurab Pololikashvili) เลขานุการ องค์การการท่องเที่ยวโลก เปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆนี้ ในงานสัมมนาด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือ Gastronomy Tourism Forum ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทย โดยกล่าวว่า การท่องเที่ยวเชิงอาหาร ถือเป็นรากฐานของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่กระจายรายได้เข้าสู่พื้นที่คนในชุมชม
นายซูรับ กล่าวว่าประเทศไทย ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย และยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการรักษามาตรฐานการท่องเที่ยว ของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆควบคู่ไปด้วย
“ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีโอกาสที่จะขยายธุรกิจตามไปด้วย การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วย จะทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าและท่องเที่ยวได้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น” นายซูรับกล่าว
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่ารัฐบาลไทย กำลังพยายามยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวขึ้นไปอีกระดับ โดยมุ่งให้ความสำคัญทั้งเรื่อง ความปลอดภัย การรักษาสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ รวมถึงการพัฒนาสินค้าใหม่ในเมืองรองทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ททท. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการตลาดโดยตรง ได้ดำเนินการส่งเสริมผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้เพิ่มคุณภาพและมาตรฐานสินค้ามายาวนาน ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรือรางวัลกินรี ซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี โดยครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา
นายวีระศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลยังได้ทำงานร่วมกับหน่วยระดับโลกหลายแห่ง ที่เกี่ยวกับการสร้างมาตรฐานท่องเที่ยว เพื่อใช้เป็นกรอบในการพัฒนามาตรฐานการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น
ด้านนายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศหรือ สทท. กล่าวว่าสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวของโลก มีการแข่งขันกันสูงมากขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้นานาประเทศต้องคิดกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่จะดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยพยายามเน้นความแตกต่าง รวมถึงจุดแข็งของสินค้าการท่องเที่ยวที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
“นักท่องเที่ยวในยุคปัจุบัน ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว ความคุ้มค่าในการใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญมาตรฐานการในเรื่องสินค้าและบริการด้วย” นายอิทธิฤทธิ์กล่าว
สำหรับการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างหนึ่งคือ การสร้างมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยว และการระมัดระวังถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอีกด้วย ดังนั้น หากประเทศใดมีการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวที่จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวและการบริการในองค์รวมยังคงมีคุณภาพอย่างยั่งยืนเป็นรูปธรรมแล้ว ย่อมจะมีโอกาสเพิ่มทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ ตลอดเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศมีความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ด้วย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอกชนไม่ว่าจะเป็นโรงแรม บริษัทนำเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สามารถส่วนร่วมในการส่งเสริมการตลาด ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ สินค้าการท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งทางตรงโดยผู้ประกอบการเอง และทางอ้อมนักท่องเที่ยวได้ได้สัมผัสการท่องเที่ยวทีมีมาตรฐาน
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลกินรีแล้วกว่า 600 ราย โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขามาร่วมจัดการและคัดเลือก โดยยังมีเป้าหมายที่จะยกระดับมาตรฐานให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสู่ระดับสากลด้วย