โครงการพัฒนาทักษะมัคคุเทศก์เพื่อการบริการนักท่องเที่ยวผู้พิการทางสายตา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 21 มิถุนายน 2561 ณ โรงแรมวาสนา ดีไซด์ โฮเทล และพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสบความสำเร็จอย่างสูง

สืบเนื่องจากประเทศไทยได้มีโอกาสในการต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวผู้พิการทางสายตาจากประเทศอังกฤษ จำนวน 12 ท่าน และเจ้าหน้าที่ประสานงาน รวมจำนวนทั้งสิ้น 16 ท่าน ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ 2561 นับเป็นครั้งแรกที่นักเดินทางกลุ่มนี้เดินทางท่องเที่ยวออกนอกพื้นที่ทวีปยุโรป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แสดงความเชื่อมั่นในประเทศไทย ให้เป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว เป็นการตอกย้ำภาพที่ชัดเจนตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เข้าถึงได้สำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนของ UNWTO เมื่อปี 2559 ภายใต้หัวข้อ “Tourism for All” 

โดยคณะนักท่องเที่ยวฯ ได้เข้าเยี่ยมชมใน 2 พื้นที่วิจัย ได้แก่ จังหวัดพะเยา และจังหวัดพัทลุง และการมาเยือนของกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้พิการทางสายตาในครั้งนี้ เป็นผลพวงจากการที่บริษัท นัตตี้ แอดเว็นเจอร์ ในนามสมาคมไทยท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Thai Responsible Tourism Association: TRTA) ได้ร่วมกับคณะนักวิจัย ได้ดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยได้พบปะเจรจาธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยวจากประเทศอังกฤษและประเทศในยุโรป และหนึ่งในคู่เจรจาธุรกิจคือ Seable เป็นผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวผู้พิการ ซึ่งภายหลังได้เชิญตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวที่ได้พบปะเจรจากันที่ประเทศอังกฤษ มาทดสอบเส้นทางที่พัฒนามาจากงานวิจัย หรือที่เรียกว่า FAM trip (familiarization trip) จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน ปี 2560 ที่ผ่านมา ในพื้นที่วิจัย สกว. จังหวัดพะเยา จังหวัดสุราษฏร์ธานี และจังหวัดพัทลุง โดยมีคณะเดินทางเข้าร่วม 12 คน และหนึ่งในนั้นคือ Mr.Damiano La Rocca จากบริษัท Sable มาร่วมทดสอบเส้นทางรวมอยู่ด้วย รูปแบบการเดินทางเป็นการเดินทางเสมือนจริงทุกกิจกรรม เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และตัวแทนบริษัทเหล่านี้สามารถนำกลับไปถ่ายทอดได้อย่างชัดเจน 

ซึ่งผลการทดสอบเส้นทางเป็นที่น่าพอใจ และมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย ผู้แทนบริษัท Seable ให้ความไว้วางใจ บริษัทนัตตี้ส์ แอดเวนเจอร์ จำกัด เป็นผู้นำเที่ยว และให้บริการนักท่องเที่ยวที่มีความพิการทางสายตา ทั้งหมด 12 ท่านและผู้ช่วยเหลืออีก 4 ท่าน ตามเส้นทางท่องเที่ยวดังนี้ คือ จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพะเยา จังหวัดพัทลุง และจังหวัดตรัง รวมทั้งสิ้น 11 วัน

โดยในครั้งนั้นได้รับความกรุณาจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้การต้อนรับ และได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและคณะผู้ร่วมเดินทาง รวมถึงวันสุดท้ายท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมาพบปะกลุ่มนักท่องเที่ยวมีความพิการทางสายตาและคณะผู้ร่วมเดินทาง กล่าวขอบคุณแทนชาวไทยที่มีโอกาสได้ต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดี

สำหรับประเทศไทย มีประเด็นเรื่องการท่องเที่ยวหลากหลายด้าน ทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงการแพทย์และสุขภาพ ตามที่รัฐบาลได้มีการกำหนดการพัฒนาเขตพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยการมุ่งเน้นเชื่อมโยงที่เที่ยวให้สามารถท่องเที่ยวต่อเนื่องได้ รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชน ท้องถิ่นมีความพร้อม และขับเคลื่อนให้ประเทศไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพชั้นนำของโลก ส่งเสริมด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและกระจายรายได้ไปสู่ประชาชนอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์แผนพัฒนาท่องเที่ยวแห่งชาติฉบับที่ ๒ ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ๒๐ ปี

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้เล็งเห็นโอกาสอันดีที่จะเตรียมความพร้อมให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว จึงได้จัดให้มีโครงการพัฒนาทักษะมัคคุเทศก์เพื่อการบริการนักท่องเที่ยวผู้พิการทางสายตา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้มีความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว การให้บริการและความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นมัคคุเทศก์ของบริษัททัวร์ในประเทศและต่างประเทศ ผู้ที่สนใจ จำนวน 22 ราย เข้าร่วมกิจกรรม

ในวันแรก ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมไทยท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (TRTA) สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการบรรยายให้ความรู้ และเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำผลงานการวิจัยในพื้นที่มาเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว โดยคณะนักวิจัยของสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) 

ในวันที่สอง เป็นกิจกรรมสำคัญที่เหล่ามัคคุเทศก์ ได้ร่วมฝึกปฏิบัติ “เทคนิคการให้บริการและการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวผู้พิการทางสายตา” การจำลองสถานการณ์ และบทบาทสมมติ เพื่อให้เกิดประสบการณ์ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เข้าร่วมอบรม

ในวันที่สาม เหล่ามัคคุเทศก์ ได้ฝึกปฏิบัติจริงนอกสถานที่ โดยการนำนักท่องเที่ยวผู้พิการทางสายตา จากสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เยี่ยมชมและสัมผัสความงามในอุทยานประวัติศาสตร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวิถีชีวิตชุมชน ณ หมู่บ้านภูเขาทอง ถือเป็นโอกาสในการสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน

นับว่าเป็นการเริ่มต้นของการสร้างความร่วมมือ และบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ให้ความสำคัญกับการให้บริการนักท่องเที่ยวผู้มีความพิการทางสายตา โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลและการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม เพราะการท่องเที่ยวหรือการเดินทางคือสิทธิ์ของประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างชาติ ภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมกันทำให้การท่องเที่ยว มีความเหมาะสมกับคนทุกวัยทุกกลุ่ม ซึ่งจะต้องมีการวางแผนและการปฏิบัติงานให้สำเร็จตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีความพร้อมในการให้บริการและต้อนรับนักท่องเที่ยว ภายใต้หัวข้อ “Tourism for All”