ฝ่ายสินค้าท่องเที่ยว ททท. ตอบโจทย์แผนตลาดททท.ปี 2562 นำ Product มาสร้างเป็น Content หรือกิจกรรม ตอกย้ำสินค้าและความน่าเที่ยวในภูมิภาคต่างๆ
นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากแผนการตลาดของททท.ในปี 2562 ในส่วนของฝ่ายสินค้าททท.นั้นจะนำ Product มาสร้างเป็น Content หรือกิจกรรม ซึ่งฝ่ายสินค้านั้นจะช่วยตอกย้ำสินค้าและความน่าเที่ยวในภูมิภาคต่างๆ โดยจะร่วมมือกับฝ่ายตลาดในประเทศ เพื่อคิดวิเคราะห์สินค้าและพื้นที่ ผลักดันยอดการใช้จ่ายและขยายวันพักให้มากขึ้น การเสริมเติมเต็มหาแม่เหล็กด้วยคอนเท้นท์ต่างๆ รวมถึงกิจกรรมเพิ่มเติม
ทั้งนี้จะต้องศึกษาในรายตลาดทั้งในและต่างประเทศด้วยว่า ตลาดมีความชอบอะไรและเหมาะสมกับพื้นที่ไหม เช่นยุโรปชอบสิ่งใด เอเชียชอบสิ่งใด ตัวอย่างเช่น ยุโรปจะสนใจชุมชนหรือโลคอลมาก ส่วนเอเชียชอบไลฟ์สไตล์ในเมือง หรือการท่องเที่ยวเชิงอาหาร เป็นต้น ตัวอย่างการศึกษาในแต่ละพื้นที่และแต่ละภาค เช่น ภาคเหนือ ที่โดดเด่นเรื่องงาน Craft ก็จะดูว่าจะส่งเสริมไปในแนวทางใด เช่น นางพญาผ้าซิ่นเบญจภาคี จาก 5 จังหวัด ที่มีอายุเป็นร้อยๆปี หรือท่องเที่ยวเชียงรายที่เป็นเมือง Colourful มีทั้งสวน ไร่ ฟาร์ม งานศิลปะ วัฒนธรรม 5 ชนเผ่า เป็นต้น ซึ่งจะมีการคิด Story อย่างน่าสนใจขึ้นมาเชิญชวนให้คนไปเที่ยว
ส่วนภาคใต้คือไม่ใช่แค่เที่ยวทะเล แต่เราอาจจะคิดเรื่อง Theme ความรัก มีม้าน้ำที่ท้องตมใหญ่ชุมพร ที่รักเดียวใจเดียว ภูเก็ตมีสะพานรักสารสิน ยะลามีนกเงือกจากป่าฮาลาบาลา มีช่องเขารูปหัวใจที่แหลมสัก กระบี่ มีถ้ำเลที่ตามหาหัวใจในปลายอุโมงค์ สามารถนำมาผูกโยงเป็นเรื่องราวความรักได้ ส่วนภาคอีสานมี Gastronomy Tourism อาหารอีสานไม่ใช่แค่น่าทาน และอร่อย แต่มีความหลากหลายมาก ตั้งแต่ ก ไก่ ไปจนถึง ฮ นากฮูก เช่น ก ไก่ คือไก่ กุ้ง กุน ก้าง กบ ไปกินกุ้งจ่อมที่บุรีรัมย์ ไปกินกุน(หมูยอ)ที่อุบล ไปกินกุ้งเต้น เหล่านี้เป็นต้น
ตัวอย่างเหล่านี้สามารถนำมาคิดเป็น Creative Tourism ตลอดจนการใส่ใจในเรื่องความยั่งยืน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กาจัดการอย่างมีคุณค่า เศรษฐกิจพอเพียง เราสามารถคิดเรื่องราวตอบโจทย์ให้ได้
ก่อนหน้านี้ททท.ได้ประกาศแผนในปี 2562 โดยทิศทางการส่งเสริมตลาดในประเทศจะเน้นเรื่องการต่อยอดสร้างสรรค์ Content ด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจที่ทำให้คนไทยรู้จักและรักเมืองไทยมากขึ้นไปกว่าเดิม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าการท่องเที่ยวของประเทศ และเชื่อว่าจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้จากการเพิ่มความถี่ในการเดินทางและค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันที่เพิ่มขึ้นด้วย ขณะเดียวกันการสื่อสารภายในประเทศจะเน้นแคมเปญ Amazing ไทยเท่ ที่จะทำให้คนไทยเห็นว่าการเที่ยวเมืองไทยเป็นเรื่องเท่ ด้วยการเที่ยวแบบลึกซึ้งและเข้าถึง โดยใช้ศักยภาพคนท้องถิ่นทั่วไทยจะขนานนามว่า Local Hero เป็นทั้งผู้ปกป้อง สืบสานและถ่ายทอดวิถีชีวิต ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ธรรมชาติ ให้คงอยู่ ตลอดจนการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชีวิตที่มีอัตลักษณ์ ไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีกด้วย