มีโอกาสร่วมทริปในโครงการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปยังจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที 17-18 สิงหาคม 2561
ได้เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆและแหล่งท่องเที่ยวที่ฮอตฮิตของกาญหลายที่ นำทีมโดยคุณจรรยารักษ์ สาธิตกิจ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี
เริ่มที่วัดทิพย์สุคนธาราม ตั้งอยู่ใน อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ซึ่งวัดนี้มีสิ่งที่โดดเด่น คือ "พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถ คันธารราฐอนุสรณ์" จัดสร้างเนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเฉลิมพระชนม พรรษา 84 พรรษาและในโอกาส ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ปี 2555
พระพุทธเมตตาฯเป็นพระพุทธรูปปางขอฝนเนื้อสำริดที่ใหญ่ที่สุดในไทย ด้วยพระพุทธบารมีได้ทรงพลิกพื้นที่แห้งแล้งให้มีน้ำฝนหลั่งไปทั่วทุกสารทิศ และที่อำเภอห้วยกระเจา คือ อีสานของจังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นที่มาของพระปางขอฝนที่สุดแห่งความศรัทธากับประติมากรรมทางพุทธศิลป์ พระพุทธรูปสำริดปางขอฝนที่สูงที่สุด ในประเทศไทย ว่ากันว่าหากได้มากราบไหว้ชีวิตจะพบแต่ความร่มเย็นเป็นสุขดั่งแผ่นดินที่ได้รับสายฝน
ซึ่งมีความเชื่อว่าการสร้างพระพุทธรูปดังกล่าว จะทำให้พื้นที่บริเวณ นั้นเกิดความชุ่มชื้นมากขึ้นจากพุทธานุภาพปางขอฝน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่แห้งแล้งซึ่งหลังจากสร้างพระพุทธรูปแล้วพื้นที่ในอำเภอห้วยกระเจา ก็มีความเขียวขจีขึ้น สังเกตได้จากภูเขาซึ่ง ตั้งอยู่ด้านหลังองค์พระพุทธรูปจากเมื่อก่อนที่เคยแห้งแล้งก็เชียวขจีขึ้น
ต่อด้วยไปเที่ยวที่แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ลานภูเขาไฟลาวา แหล่งกำเนิดพลอยและนิล แหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาของอ.บ่อพลอย จะมีการพัฒนาสู่ที่เที่ยวที่สมบูรณ์แบบในเร็วๆนี้
จากนั้นไปไร่คุณมน ศูนย์เรียนรู้ของชุมชนในท้องถิ่นและการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งไร่คุณมนแห่งนี้ จะทำการเกษตรแนวผสมผสาน และเต็มไปด้วยกิจกรรมความสุขให้กับนักท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ
กิจกรรมต่างๆ เช่น ชมไร่ข้าวโพดและร่วมเก็บข้าวโพดภายในไร่พร้อมกับชาวสวน เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปหลากหลายชนิด อาทิเช่น น้ำนมข้าวโพด ท็อฟฟี่นมข้าวโพด ไอศกรีมน้ำนมข้าวโพด น้ำมันงา กล้วยอบกรอบสุญญากาศ กล้วยกวน น้ำส้มสายชูหมักจากกล้วย ลูกชิ้นข้าวโพด กุนเชียงข้าวโพด ชมขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรแปรรูป รวมทั้งสามารถร่วมลงมือทำได้อีกด้วย
ทานข้าวสายรุ้ง 7 สีและกับข้าวอาหารถิ่นอร่อยมากๆ
จากนั้นล่องเรือในแม่น้ำแคว ชิลด์ๆกับทิวทัศน์2ฝั่ง และสะพานข้ามแม่น้ำแคว
ก่อนเข้าสู่งานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมสายน้ำแห่งชีวิต กาญจนบุรี ที่จะจัดขึ้น ในวันที่ 15 กันยายน 2561 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะเปิดตัวให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวของวิถีชีวิตและสายน้ำ โดยมีคุณบวรศักดิ์ วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี คุณจรรยารักษ์ สาธิตกิจ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี คุณทรงวุฒิ ศีลแดนจันทร์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี คุณเบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศมนตรีเมืองกาญจนบุรี พันตำรวจโท สืบศักดิ์ ผันสืบ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 (กาญจนบุรี) และคุณวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี ร่วมแถลงข่าวกิจกรรมสายน้ำแห่งชีวิต กาญจนบุรี มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 15 กันยายน 2561 เวลา 17.00-21.30 น. ที่บริเวณท่าลงแพเขื่อนขุนแผน ริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี
อีกวันเราไปเที่ยวที่ถ้ำเชลย นอกจากจะเป็นถ้ำที่มีความสวยงามแล้วยังเป็นถ้ำที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2484 ถึง พ.ศ. 2485 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้ก่อสร้างทางรถไฟจากประเทศไทยไปประเทศพม่าและอินเดียระยะทางกว่า 400 กม. เพื่อใช้ขนส่งกองทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์จากไทยไปยุโรป
เชลยศึกนับแสนคนที่ถูกทหารญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้างทางรถไฟสายนี้ ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคภัย ไข้เจ็บ ไข้ป่าหรือไข้มาลาเรีย โรคอหิวาต์ตายกันทุกวันดังใบไม้ ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่หนึ่งซึ่งเชลยศึกได้วิ่งขึ้นมาเพื่อหลบภัยและได้ค้นพบ และทุกคนที่ได้มาหลบภัยในถ้ำแห่งนี้แล้วรอดพ้นจากการถูกระเบิดที่ทิ้งมาจากเครื่องบินของฝ่ายพันธมิตรอย่างน่าอัศจรรย์ ที่นี่เพิ่งได้รับการปรับปรุงให้เป็นที่เที่ยวใหม่จะเปิดในเดือนกันยายนนี้
การเดินเข้าถ้ำจะเดินป่าระยะทางประมาณ 400 เมตร แต่ไม่ร้อนเพราะเต็มไปด้วยความร่มรื่นจากป่าไผ่ และไม่สูงชัน เดินชมต้นไม้ต่างๆ เห็ดป่า และพรรณไม้นานาชนิด
สักการะองค์พระในถ้ำ
ชมหินงอกซึ่งกว่าจะงอกได้ทีละนิดใช้เวลามหาศาล
ปางช้างไทรโยค หรือ โครงการใหม่ชื่อ Elephant Haven Thailand เปลี่ยนจากการให้บริการ นั่งช้าง โชว์ช้าง โดยยกเลิก 2 กิจกรรมนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 เปลี่ยนมาสู่การเป็นศูนย์อนุรักษ์และบริบาลช้าง ให้เป็นสถานที่ศึกษา และเรียนรู้ ของบุคคลทั่วไป ได้เข้ามีส่วนร่วมในการดูแลช้างอย่างใกล้ชิด
เจ้าของแวะมาต้อนรับ
มีกิจกรรม อาบน้ำช้าง ทำอาหารให้ช้าง ดูช้างเล่นบ่อโคลน และปลูกป่าให้ช้าง
ซึ่งเป็นในลักษณะของอาสาสมัครเลี้ยงช้าง
เราได้มีโอกาสทำอาหารให้ช้างด้วยสนุกมากๆ
แล้วไปชมแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยา อุทยานธรณี หรือ Geological Park ของมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี
ชมและเรียนรู้หินประเภทต่างๆ และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ธรณีศาสตร์
ต่อด้วยเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 เป็นเมืองย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 วิถีชีวิตของชาวสยามในยุค ร.ศ.124
มาที่นี่หลายครั้งแล้ว ทุกครั้งสนุกมากๆ
แต่งชุดไทยเดินเล่น ชมกิจกรรมของเมือง ทานอาหารอร่อย
ตอนนี้เปิดบุฟเฟ่ต์กลางวันด้วย มีอาหารไทยโบราณมากมาย
แล้วแวะร้านอนันตพลพลอยกาญจน์ซึ่งเป็นพิพิธภัฑธ์นิลและเป็นศูนย์อัญมณี OTOPที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกอัญมณีหายากอย่างนิลแท้ จุดเด่นคือเนื้อนิลสีดำสนิท แวววาวสะดุดตา เจียระไนอย่างประณีต แล้วนำมาออกแบบเป็นรูปทรงต่างๆ มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแหวน สร้อยข้อมือ ต่างหู สายสร้อย ฯลฯ
แวะชิมวุ้นอร่อยที่ร้านวิมลวุ้นมะพร้าวอ่อน ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในจังหวัด กาญจนบุรี ที่ได้รับเครื่องหมายและวุฒิบัตรเชลล์ชวนชิม รับรองคุณภาพและความอร่อย เมื่อปีพ.ศ. 2535 ด้วยความหอมหวานของมะพร้าวน้ำหอม กับความอ่อนนุ่มของเนื้อวุ้นที่ผสมผสาน กันอย่างลงตัว จนเป็นที่รู้จักกันว่า “ถ้าเป็นวุ้นมะพร้าวอ่อนต้องร้านวิมล” เป็นศูนย์รวมสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองกาญจน์
ทริปนี้เราพักที่ผึ้ง-หวาน รีสอร์ท แอนด์ สปา ริมแม่น้ำแควน้อยอันลือชื่อแห่งกาญจนบุรี บนพื้นที่อันกว้างขวาง ครอบคลุมอาณาบริเวณถึง 300 ไร่ ประกอบไปด้วยห้องพัก และกิจกรรมต่างๆ
ขอขอบคุณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาสนับสนุนการเดินทางของ Travelista นักเดินทาง
จนกว่าจะพบกันใหม่ในทริปถัดไปนะคะ