ได้ยินชื่อทวายมานานแล้ว เพราะที่นี่โด่งดังมาก จะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สำคัญของพม่า หรือ Dawei Special Economic Zone ในอนาคตเมืองทวายจะมีท่าเรือน้ำลึก และเปิดให้นักลงทุนทั่วโลกสร้างโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ
แต่ ณ วันนี้ งานก่อสร้างยังไม่ได้เริ่มขึ้น เราก็ไปเที่ยวเมืองทวายกันก่อน ชมเสน่ห์ ชายหาดที่สวยงามและผู้คนน่ารัก วัดวาอาราม ธรรมชาติที่งดงามกัน
การไปเที่ยวทวาย ประเทศพม่า จะต้องเดินทางออกจากด่านบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี เราเดินทางรถตู้จากกรุงเทพใช้เวลาจากด่านไปสู่เมืองทวาย จะใช้เวลาราว 5 ชั่วโมงเส้นทาง 168 กม. แต่ถ้าเป็นรถ 4WD อาจจะแค่ราว 3-4 ชม.
การผ่านด่านทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวจะทำทั้งที่ฝั่งไทยและพม่า โดยยื่นบัตรประชาชนพร้อมรูปถ่าย 2 นิ้ว 1 ใบ และจ่ายค่าธรรมเนียม 30 บาท ได้หนังสือผ่านแดนชั่วคราวอายุ 7 วัน สำหรับเดินทางไปพม่าเฉพาะเมืองทวายเท่านั้น แต่หากเป็นชาวต่างชาติต้องใช้หนังสือเดินทางยื่นเป็นหลักฐาน แต่ถ้าเราอยากไปเที่ยวเมืองอื่นๆด้วยต้องขอวีซ่าและใช้พาสปอร์ต
รถตู้ที่จะผ่านแดนไปทวายต้องเป็นรถมีทะเบียนพม่า ซึ่งก็ปรากฏว่ารถตู้ฝั่งไทยก็จะมีป้ายนี้กัน แล้วนำมาแปะทับ
ตลอดเส้นทางเหมือนถนนลูกรัง แต่ไม่เลวร้าย วิ่งไปได้เรื่อยๆ เส้นทางมีเนินเขาบางช่วง ชมวิวป่าเขาที่ยังสมบูรณ์และธารน้ำข้างๆวิวงดงามมาก บริษัท อิตาเลียนไทย ได้เข้ามาพัฒนาถนนและท่าเรือน้ำลึก แต่ยังไม่คืบหน้านัก อาจเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลชุดใหม่ของพม่า
เส้นทางจากกาญจนบุรีไปทวายนั้น ชายแดนบริเวณนี้อยู่ในความดูแลของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือกะเหรี่ยงเคเอ็นยู (KNU: The Karen National Union) และกองกำลังย่อยเคเอ็นแอลเอ (KNLA: Karen National Liberation Army) การเดินทางก่อนที่จะถึงตัวเมืองทวาย จะผ่านด่านตม.ของทั้งกะเหรี่ยงและพม่า ราว 4-5 ด่าน แนะนำว่าควรมีคนพม่าไปด้วยเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และประสานงานต่างๆ
มาถึงทวายแล้ว เมืองทวายเป็นเมืองหลวงของเขตตะนาวศรี หรือตะหนิ่นต่าหยี่ มีประชากรราว 140,000 คน มีหลากหลายชาติพันธ์ ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาพม่า ชาวทวายส่วนมากเข้าใจและพูดภาษาไทยได้ หลายคนเคยมาทำงานที่เมืองไทย
ประชากรชาวทวายส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์พม่า และมีชาติพันธุ์มอญ และกะเหรี่ยง นอกจากนั้นยังมีกลุ่มชาวเลหรือมอแกน อาศัยอยู่ตามแนวทะเลอันดามัน ถูกแล้วที่นี่ติดทะเลอันดามัน อาหารการกินอุดมสมบูรณ์มาก
ชาวพม่าในเมืองนี้นิยมขี่รถจักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะนุ่งผ้าถุงหรือโสร่ง พวกเขาก็ขี่กันได้อย่างถนัด
ระหว่างทางเข้าเมืองเราจะได้ลอดผ่านอุโมงค์ต้นไม้
10 สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปทวายคือ
1 สิ่งแรกที่เจอเมื่อเข้าสู่เมืองทวายคือ อนุสาวรีย์นายพลอูอ่องซาน หรือ อนุสาวรีย์กองทัพเอกราชระหว่างทางเราจะเห็นอาคารบ้านเรือนและอาคารสำนักงาน ที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น
2 วัดพระนอนวัดพระไสยาสถ์ชเวธาลยัง ดอมะ (Shwethalyaung Daw Mu)ซึ่งมีความยาวถึง 74 ม. สูง 21 ม. ซึ่งสร้างเสร็จใน ปี ค.ศ. 1931 มีการสร้างหลังคาคลุมองค์พระไว้ ที่นี่มีพระนอนขนาดใหญ่ ตาหวาน ขนตาสวย และปากแดงงดงามตามธรรมเนียมวัฒนธรรมของพม่า ที่นี่มีตู้เสี่ยงทายมาหยอดเหรียญ รอลุ้นดูผลว่าเราไปอยู่นรกสวรรค์ หรืออยู่โลกมนุษย์
3 วัดพระเจดีย์ ชเว ด่อง จา (Shwe Taung Sar Zedi) ซึ่งเป็นวัดเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทวาย และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพม่าอีกแห่งหนึ่ง ณ วัดแห่งนี้จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวพม่าที่นิยมมาไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเวลาตอนเย็น
4 วัดเซียนตานโป่ว หรือวัดที่อยู่บนเขาสูง ออกจากตัวเมืองไป จะมีเจดีย์สีทองอร่ามตา จากเนินเขามองเห็นวิวธรรมชาติโดยรอบงดงามมาก
5 วัดเมาะละเมียว มีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ มีความงดงามมากขององค์เจดีย์เช่นกัน หน้าวัดมีน้ำอ้อยสด อร่อยมาก น้ำอ้อยที่นี่ไม่หวานจัดนัก เป็นอ้อยสีน้ำตาลแดง
6 ตลาดเช้ากันนาเซ่ ซึ่งเป็นตลาดสดที่คึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย มีสินค้า เช่นอาหารทะเลสด ผัก และผลไม้พื้นเมือง จำหน่ายมากมาย สัมผัสวิถีชีวิตชาวทวายอย่างใกล้ชิดและเก็บภาพบรรยากาศเมืองทวายยามเช้า ตลาดเช้าที่ทวายมีทั้งเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู ปลา ผัก ผลไม้ ดอกไม้ ของแห้ง ฯลฯ ที่นี่เราจะได้เห็นปลาขนาดใหญ่หลายชนิดที่เราไม่รู้จักทั้งสด แห้ง และหมัก
7 ตลาด 100 ปี หรือตลาดเซจี ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ตั้งแต่ยุคสมัยอาณานิคมอังกฤษ มีหลากหลายสินค้าให้เดินช็อปปิ้ง พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของชาวทวาย และบรรยากาศของตลาดที่ยังคงความเป็นอดีตไว้อย่างมาก
รอบๆตลาดมีการขายทองกันแทบทุกร้าน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นทองแท้100เปอร์เซ็นต์หรือไม่ เพราะขายกันเป็นตู้ๆ
และยังมีผ้าลุนตยาที่เป็นผ้าพื้นเมืองของที่นี่ มีสีสันและลวดลายงดงาม
8 โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย เป็นอภิมหาโปรเจกต์ความร่วมมือระหว่างไทยกับพม่า คาดการณ์กันว่าหากโครงการนี้แล้วเสร็จ จะเป็นประตูเศรษฐกิจ (Gate Way) แห่งใหม่ของโลกตะวันตกและตะวันออก โครงการนี้ ถือเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์ และการค้าขนาดใหญ่ของภูมิภาค แต่ตอนนี้ไม่มีความคืบหน้าหรือการก่อสร้างใดๆ เราเลยแอ๊คท่าถ่ายรูปกัน
ท่าเรือน้ำลึกนี้มีหาดทรายขาวและน้ำทะเลใส ขับรถเลาะเลียบไปตาม ชายหาดนาปูแล ภาพทะเลผืนงามและความเงียบสงบ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ก่อนขึ้นไปชมวิววัดบนเขา
9 หาดเมาะมะกัน ชายหาดที่สวยงามและยังคงธรรมชาติแบบดั้งเดิม ทั้งยังเป็นที่นิยมของคนพม่าที่มาพักผ่อนกันที่นี่ เรามาช่วงใกล้พระอาทิตย์ตกสวยมากๆ
ที่สำคัญอาหารทะเลที่นี่ตัวใหญ่ๆเบ้งๆ เนื่องจากเป็นทะเลน้ำลึกอันดามัน กุ้งมังกรที่นี่ตัวใหญ่มาก ราคาตัวละราว 300 บาท แต่ทานตัวเดียวอิ่มเลย
10 เดินเล่นกลางเมือง ชมอาคารบ้านเรือนและอาคารสำนักงาน ที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น เริ่มเดินจากกม.ที่ 0 ของเมืองไปเรื่อยๆ ผ่านอาคารที่ว่าการเมือง หอนาฬิกา
และมีสำนักงานเอสซีจีของไทยตั้งอยู่บริเวณนี้
ได้มีโอกาสพูดคุยกับบุคคลสำคัญของพม่าหลายๆคน เริ่มที่ อู ใน วิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและโรงแรมของเขตตะนาวศรี ทวาย ซึ่งมองว่าทวายมีศักยภาพมาก ทั้งการท่องเที่ยวและลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยว ปัจจุบันมีโรงแรม 11 โรง จำนวนห้องพัก 393 ห้อง แต่ยังมีโอกาสโตสูง และอยากเชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวชมความงามของทวาย ทั้งยังสามารถต่อไปเที่ยวที่มะริด หรือเกาะสอง
อีกคนที่สำคัญมากและได้พาเราเที่ยวในทริปนี้คือ ซอ ตู เย่ หนึ่งในบิ๊กโฟว์หรือผู้นำกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ซึ่งเขาอยากให้คนไทยเราได้ไปท่องเที่ยวสัมผัสชีวิตกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ซึ่งมีความน่ารักเฉพาะตัว มีประเพณีดีงามของท้องถิ่น และร่วมอนุรักษ์ผืนป่าของพม่าไว้
สำคัญที่สุดในทริปนี้ คือคุณเปิ้ล และคุณหน่อย เจ้าของโรงแรมแอปเปิ้ล รีทรีท กาญจนบุรี นักธุรกิจของไทยคนสำคัญที่จะเปิดโลกการลงทุนเชื่อมโยงทวายและกาญจนบุรี ซึ่งดูแลเราตลอดทริป และเร็วๆนี้ยังจะพานักลงทุนไทยเข้าไปที่ทวายด้วย
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนการเดินทางทริปนี้ของ Travelista นักเดินทาง