ตะลุยทัวร์เชียงใหม่ ลำพูน ทริปนี้ ได้รับเชิญจากคุณวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ซึ่งได้จัดทริปร่วมกับสายการบินไทยสมายล์ พาบล็อกเกอร์จำนวนเกือบ 20 คน ไปตะลุยในทริป Bloggers explore Chiang Mai and Lamphun เพื่อชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในเชียงใหม่ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นใหม่ๆ
เราออกเดินทางจากกรุงเทพด้วยไทยสมายล์ สายการบินฟูลเซอร์วิส ที่ได้รับการจัดอันดับที่ 17 ของสายการบินดีที่สุดในโลกจาก Tripadvisor เป็นช่วงก่อนเทศกาลไหว้พระจันทร์ เลยได้ชิมขนมไหว้พระจันทร์อร่อยมากบนเครื่องจากเพนนินซูล่าเสียด้วย
เมื่อถึงเชียงใหม่เราได้เที่ยวหลายที่เริ่มที่ พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ บูรณะอาคารซึ่งเดิมเป็นศาลแขวง มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก ภายในพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนามีอยู่ด้วยกันสองชั้น จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตของผู้คนในล้านนาซึ่งมีศิลปวัฒนธรรมที่ปฏิบัติสืบเนื่องมายาวนาน สะท้านถึงคติความเชื่อและความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ลักษณะทางศิลปะต่างๆ ทั้ง พุทธศิลป์ พิธีกรรม สถาปัตยกรรม จิตรกรรมและประติมากรรม
แวะทานกลางวันที่เฮือนเพ็ญ ร้านอาหารพื้นเมืองแท้ๆ รสชาติแบบดั้งเดิม ด้วยความพิถีพิถันในความเอาใจใส ทั้งรสชาติ เครื่องปรุง ส่วนผสม อร่อยกับแหนมหมก ลาบคั่ว แกงผักหวาน แกงหน่อ แกงแคไก่ ข้าวซอย น้ำพริกหนุ่ม แกงฮังเล หมูทอด ส้มตำ
ช่วงบ่ายเป็นการเดินทัวร์วัด เริ่มที่วัดพันเตา เดิมเป็นพื้นที่ในเขตวัดเจดีย์หลวง โดยเป็นเขตสังฆาวาสรวมทั้งเป็นพื้นที่ตั้งเตาหลอม ในการหล่อพระพุทธรูปที่ประดิษฐานในวัดเจดีย์หลวง จึงเป็นที่มาของชื่อ ศาสนสถานและปูชนียวัตถุภายในวัดพันเตา ประกอบด้วย พระวิหารหอคำหลวง เดิมเป็น หอคำโบราณ สร้างจากไม้สักทั้งหลังมีสภาพสมบูรณ์และสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ประธาน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังพระวิหารหอคำหลวง เป็นเจดีย์ทรงระฆัง บนฐานแปดเหลี่ยม และมีเจดีย์รายล้อมอยู่โดยรอบ
วัดเชียงมั่น พุทธศาสนสถานอีกหนึ่งแห่ง ที่ถือได้ว่ามีความสำคัญสำหรับชาวเชียงใหม่เป็นอย่างยิ่ง วัดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่และถือเป็นวัดแห่งแรกในเขตกำแพงเมือง เมื่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้น เมื่อปี พ.ศ.1839 วัดเชียงมั่น วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสําคัญของเชียงใหม่ คือ พระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว วัดเชียงมั่นมีสถาปัตยกรรมสําคัญ ได้แก่ เจดีย์สี่เหลี่ยมผสมทรงกลม ฐานช่างล้อม พระอุโบสถและหอไตร
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงในจังหวัดเชียงใหม่ โดดเด่นที่พระเจดีย์ ที่ปัจจุบันมีขนาดความกว้างด้านละ 60 เมตร เป็นองค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญอีกองค์หนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร หนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา มีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน
มื้อค่ำไปทานที่เฮือนสุนทรี เวชานนท์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง การตกแต่งภายในและภายนอกผสมผสานกับธรรมชาติไว้ได้อย่างลงตัว ภายใต้บรรยากาศอันร่มรื่น เพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารพื้นเมืองและเสียงดนตรีที่บรรเลงทุกค่ำคืน
ไฮไลท์ที่สุดของทริปนี้ เช้าอีกวันเราไปที่บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม หมู่บ้านนาขั้นบันไดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของเมืองไทย ที่รายล้อมไปด้วยนาขั้นบันได ต้นข้าวโพด เป็นสถานที่เที่ยว เป็นมุมยอดฮิตของนักถ่ายภาพ
ในยามเช้าจะ ได้พบกับทะเลหมอก ช่วงเย็นชมพระอาทิตย์และแสงยามเย็นสวยๆ สลับกับก้อนเมฆและขุนเขาทะมึนเป็นฉากหลัง สวยราวกับภาพวาด ต้องเปลี่ยนรถตู้ นั่งรถ 4WD เข้าไปกับในตกพรำได้บรรยากาศลุยป่า
ถ้าอยากเห็นข้าวเขียวขจีเต็มท้องทุ่งช่วงเดือนก.ย. – ต้น ต.ค.จะเป็นอะไรที่สวยที่สุด อยากได้สีทองของรวงข้าวก็ควรมาในช่วงปลายเดือนต.ค
จากนั้นไปบ้านท้องฝาย หมู่บ้านทอผ้าตีนจกแม่แจ่ม ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ผ้าตีนจกแม่แจ่ม หนึ่งเดียวในโลก ทุกหลังคาเรือนจะต้องมีกี่สำหรับทอผ้า ผ้าลายจกแม่แจ่มจะมี 2 แบบ คือลายโบราณและลายประยุกต์
แวะวัดพุทธเอ้น วัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญต่อชาวอำเภอแม่แจ่มเป็นอย่างยิ่ง เดิมวัดแห่งนี้มีชื่อว่า “วัดศรีสุทธาวาสเอิ้นมงกุฎ” ซึ่งนอกจากความร่มรื่นของบรรยากาศโดยรอบแล้ว บริเวณด้านหน้าวัด ยังมีสิ่งมหัศจรรย์น่าชม คือ “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งมีตาน้ำที่ไม่เคยเหือดแห้ง ยังมีพระอุโบสถกลางน้ำ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก่อนเข้าพักแวะชิมอาหารและเยี่ยมชมโรงแรมมารายา เก๋ไก๋สวยงามริมน้ำปิง โดยมีเจ้าของคือน้องแพรวามาคอยต้อนรับ นอกจากจะเป็นบูติคโฮเต็ลเก๋ๆแล้ว ยังมีวิวมองเห็นวัดเจดีย์เหลี่ยม ซึ่งจะฉายไฟไลท์อัพในยามค่ำคืนสวยงามมาก อาหารที่นี่เป็นแนวฟิวชั่นผสมผสานความเป็นอาหารเหนือ อร่อยไม่เบา
เรากลับไปพักผ่อนที่โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิงเป็นคืนที่ 2 เก็บแรงเที่ยวต่อไป ซึ่งในทริปนี้ททท.เชียงใหม่ให้เลือกโปรแกรมในวันที่ 3 ว่าจะเลือกโปรแกรมเที่ยวแบบชิลด์ๆ หรือเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ของกลุ่ม เจนวาย ซึ่งเราได้เลือกในกลุ่มนี้ เตรียมผจญภัยพร้อมแล้ว
ตื่นเช้ามุ่งสู่ปางช้างแม่แตง พบหลากหลายรูปแบบของการท่องเที่ยว เริ่มจากนั่งเกวียน ซึ่งมีวัวขนาดใหญ่พาเราเดินผ่านชมวิถีชนบท แล้วขากลับขี่ช้างกลับมา สนุกตื่นเต้น แต่พลาดล่องแพไม้ไผ่เพราะเป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งมีน้ำป่าหลากจึงค่อนข้างอันตราย จากนั้นเด็ดที่สุดคือ Zipline หรือการโหนสลิงไปชมธรรมชาติแบบใกล้ชิด ทั้งวิวหมู่บ้าน ลำธาร ป่า ด้วยการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ หวาดเสียวที่สุดแต่สนุกมาก
ไปต่อที่ Canopy Walkway ทางเดินชมธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ ที่สวนพฤกษศาสตร์ฯแม่ริม ซึ่งเพิ่งเปิดเมื่อเดือนธันวาคม 2558 ซึ่งเป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ระยะทางกว่า 400 เมตร และที่ระดับความสูงเหนือพื้นดินกว่า 20 เมตร สามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของทิวยอดไม้ในแบบพาโนรามา ชมวิวต้นไม้ ภูเขา รวมไปถึงทะเลหมอก ท่ามกลางปลายทิวสนสามใบเหนือยอดเขาระดับความสูงกว่า 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล แต่ช่วงนี้เขายังปิดบริการ จะเปิดให้ชมอีกครั้งในช่วงหน้าหนาว
แวะทานอาหารกลางวัน ที่คุ้มเสือแม่ริม ทานอาหารบุฟเฟ่ต์และชมเสือสายพันธุ์อินโดจีนอย่างใกล้ชิด
แล้วต้องไปงานสำคัญประเพณีสลากย้อมเมืองลำพูน หนึ่งเดียวในโลก ประจำปี 2559 ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ซึ่งประเพณีสลากภัต สลากย้อม พิธีถวายทานสลากภัต หรือ การตานก๋วยสลาก เป็นประเพณีมีลักษณะพิเศษ คือ ให้ผู้หญิงเป็นเจ้าภาพได้เท่านั้น กุศโลบายที่สำคัญ คือ จะจัดทำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะสิ่งสำคัญ คือ สลากต้องมีความสวยงาม ใช้จตุปัจจัยในการเตรียมงานมาก ประเพณีสลากภัตหรือการตานก๋วยสลาก เป็นประเพณีเก่าแก่ในพุทธศาสนาที่ชาวล้านนาและคนลำพูนสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่โบราณกาล
ค่ำคืนเดินเล่นที่ไนท์บาซาร์ แหล่งรวมสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน ภาพวาด เครื่องเขิน เครื่องเงิน เรียกว่าจิปาถะมากมาย ราคาก็ไม่แพง
วันสุดท้ายเราไปเที่ยวที่ผาช่อ ตั้งอยู่ในอำเภอดอยหล่อ ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติแม่วาง เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของ ลมฝนจนทำให้แผ่นดินที่เชื่อกันว่าเมื่อหลายร้อยปี หรือพันปีก่อนบริเวณแห่งนี้เคยเป็นทางเดินของแม่น้ำปิง ซึ่งสังเกตได้จากก้อนกรวดหิน กลมมนกระจัดกระจายอยู่ในเนื้อดินจำนวนมาก จนกระทั่งแม่น้ำปิงได้เปลี่ยนสายย้ายทิศไหลผ่านไปที่อื่น บริเวณนี้ก็ได้ถูกยกตัวเป็น เนินเขาสูงตะกอนแม่น้ำปิงก่อตัวทับถมกันเป็นชั้นๆ ผ่านกลายเวลาและถูกกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผาและเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตา
ก่อนกลับแวะนวดที่เฮลท์ ล้านนา สปา สถานที่นวดผ่อนคลายเดย์สปาตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ในบรรยากาศไทยล้านนาร่วมสมัย (Lanna Contemporary) โดยใช้เทคนิคแสงสร้างความอบอุ่นตลอดการผ่อนคลาย บรรยากาศสปากับความอลังการด้านสถานที่ในเฮลท์ ล้านนา สปา สะท้อนสัมผัสของความเงียบสงบให้กับแขกได้ผ่อนคลายห้องสปาทรีตเมนต์มีทั้งหมด 20 ห้องแบ่งออกได้เป็นแกรนด์สปาสวีท 2 ห้อง และห้องนวดไทยอีก 75 ห้องพร้อมด้วยสันทนาการในการบำบัดด้วยน้ำ “สุคนธบำบัด” ทั้งจากุซซี่(Jacuzzi) และการอบไอน้ำ(Steam)
ขอขอบคุณททท.เชียงใหม่และไทยสมายล์สนับสนุนการเดินทาง
ติดตามข่าวสารการท่องเที่ยวได้ที่ Facebook/Travelista นักเดินทาง