ข่าวด้านสาธารณสุขที่คนไทยสนใจมากที่สุดตอนนี้เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของไวรัสโคโรน่า ซึ่งองค์การอนามัยโลก (World Health Organization-WHO) คาดว่าการระบาดของเชื้อไวรัสนี้น่าจะมีที่มาจากสัตว์ที่ติดเชื้อที่ตลาดขายอาหารทะเลและสัตว์ป่าในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน และได้พบการติดต่อกันระหว่างคนสู่คนเกิดขึ้นแล้ว

โดยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนสายพันธุ์นี้ ทำให้มีการระบาดของโรคปอดอักเสบขึ้น

ผู้เขียนเอง (บล็อกเกอร์ Travelista นักเดินทาง-สาธิตา โสรัสสะ) เคยมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเมืองอู่ฮั่น เลยขอนำเรื่องราวของเมืองนี้มาเล่าสู่กันฟัง

ก่อนอื่นเริ่มที่มณฑลหูเป่ย ตั้งอยู่ตอนกลาง ของประเทศจีน มีอาณาเขตอยู่ในพื้นที่ของแม่น้ำ 2 สายคือ แม่น้ำฉางเจียง (แยงซีเกียง) และฮั่นเจียง เนื่องจากอยู่ ทางเหนือของทะเลสาบต้งถิงทางตอนกลางของแม่น้ำ ฉางเจียง จึงได้ชื่อว่า ‘หูเป่ย’ ซึ่งแปลว่า เหนือทะเลสาบ มีเมืองหลวงชื่อ อู่ฮั่น มีเนื้อที่ 185,900 ตร.ก.ม. มีประชากรกว่า 60 ล้านคน ก็เกือบเท่าไทยทั้งประเทศ

แค่พอไปถึงสนามบินอูฮั่นนี่ใหญ่โตมโหฬารทันสมัยสุดๆ

เราบินไปโดยแอร์เอเชีย บินตรงจากดอนเมือง

ในมณฑลหูเป่ยมีเขตตงเป่าและจิงเหมินเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษใหญ่มากของจีนเชื่อมโยงเศรษฐกิจและวัฒนธรรม รองรับการลงทุนและการท่องเที่ยว โดยเขตตงเป่ามีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภคและการสื่อสาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เป็นเมืองอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม และเขตอิเลคโทรนิคส์ การลงทุนด้านวัสดุก่อสร้าง พลังงาน โดยทุกโรงงานเน้นการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีระบบทางด่วนและรถไฟความเร็วสูงกำลังก่อสร้าง

(นี่เราไปดูโมเดลเมือง จีนทำอะไรเล็กๆไม่เป็น)

ในแง่ของการท่องเที่ยวของหูเป่ยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายเช่น หอคอยตงซาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างโดยราชวงศ์สุยถัง อายุเก่าแก่กว่า500ปี ในเมืองจิงเหมิน

 มีใบไม้เปลี่ยนสี ถิ่นกำเนิดลัทธิเต๋า ถ้ำมังกรเซียงหลง  เรียกว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการท่องเที่ยว

ในหูเป่ยยังมีเมืองโบราณ MOCHOU ที่เมือง Zhongxiang

ในเมืองโบราณมีคำสอนจากบรรพบุรุษจีนมากมายตามทางเดิน เดินเล่นเพลินเลย

รวมถึงสุสานที่จักรพรรดิ จักรพรรดิ jiajing สร้างให้บิดาอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งได้รับเลือกเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้

และทะเลสาบ MOCHOU (โมโฉ เลค)

ส่วนเมืองอู่ฮั่น เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “ชิคาโกแห่งเอเชีย” เนื่องจากที่นี่เป็นศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารและการขนส่งของประเทศจีน, อู่ฮั่นมีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า10ล้านคนที่นี่จึงเป็นเมืองที่มีความหนาแน่นที่สุดในมณฑลหูเป่ย นอกจากความยิ่งใหญ่ของมหานครแล้วสีสันความงดงามของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมก็น่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนกันเลย สะท้อนให้เห็นถึงภาพในอดีตสมัย พ.ศ.223 ครั้งนั้นอู่ฮั่นเกิดจากการรวมตัวของ 3 หัวเมืองใหญ่ไว้ด้วยกัน นั่นคือฮั่นหยาง ฮั่นโข และอู่ชาง

 ที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดในอูฮั่น ได้แก่

1 หอกระเรียนเหลือง  บทกวีในนิทานชื่อดังเกี่ยวกับหอคอยนี้ถูกเล่าขานสืบทอดกันมาหลายร้อยปีแล้ว ถึงแม้จะมีผู้คนมาเยี่ยมชมที่นี่เนืองแน่นในทุกๆวันแล้วก็ตาม เสน่ห์ของบทกวีที่ไพเราะยังทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ของอู่ฮั่นอีกด้วย เมื่อได้เดินทางมาที่นี่แน่นอนว่าคุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพแห่งสรวงสวรรค์ หอกระเรียนเหลืองหลังปัจจุบันนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ทดแทนหลังเดิมที่ถูกเผาทำลายไป

2 ทะเลสาบตงหู  ทะเลสาบในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน โอบล้อมไปด้วยต้นหลิวและทัศนียภาพที่สวยงามของจุดชมวิวและสะพานชมจันทร์ ความสวยงามในทุกฤดูกาลของที่นี่ยามเมื่อขึ้นไปชมวิวทะเลสาบจากเทือกเขาเหมาซานทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ยิ่งโด่งดังมากขึ้น กลายเป็นสถานที่แห่งความงามอันน่ามหัศจรรย์และเป็นที่เดินเล่นสุดแสนโรแมนติกของนักท่องเที่ยว

3 พิพิธภัณฑ์มณฑลหูเป่ย  พิพิธภัณฑ์กว้างใหญ่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีนที่ใช้แสดงผลงานวัตถุโบราณที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์แห่งมีของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มากมายรวมไปถึงชุดระฆังอายุกว่า 2,400 ปีจากหลุมศพของกษัตริย์เฉิงโฮ่วอี้, ระฆังชุดจำลองซึ่งจะมีคณะนักแสดงเล่นโดยพร้อมเพรียงกันในห้องโถงที่อยู่ถัดไป

4 วัดกุ้ยหยวน  หนึ่งในวัดที่ใหญ่ที่สุดในอู่ฮั่น, ผู้คนมักนิยมมาที่วัดแห่งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคล วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเพราะเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระอรหันต์ 500 องค์ซึ่งแต่ละองค์มีความเกี่ยวข้องในเรื่องทำนายโชคชะตา นอกจากนี้ประติมากรรมและโบราณวัตถุต่างๆที่วัดแห่งนี้ยังสวยงามอย่างไร้ที่ติอีกด้วย

ที่จริงต้นกำเนิดของไวรัสนี้ว่ากันว่ามาจากอาหาร แต่คนจีนส่วนใหญ่ก็นิยมทำอาหารปรุงสุก ทานซุปร้อนๆ และทานพริกเผ็ดๆก็ช่วยป้องกันโรคได้

ซุปต่างๆ

แต่ก็มีของป่าแปลกๆจำนวนมาก ที่คนจีนสามารถทานกัน บางทีไกด์พูดติดตลกว่าคนจีนกินได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้

ช่วงนี้มีมาตรการปิดเมืองทั้งการเดินทางเข้าออก

ผู้เขียนก็หวังว่า สถานการณ์จะคลี่คลายโดยไว

ภาพนี้ผู้เขียนถ่ายเมื่อไปเที่ยวหูเป่ยปลายปี 2560

ขอบคุณที่ติดตามเวบไซต์ของ Travelista นักเดินทาง ชมข่าวสารด้านการท่องเที่ยวที่ไม่ตกยุคได้ที่ www.bloggertravelista.com ,Facebook/Travelista นักเดินทาง ,081-8172805