Travelista นักเดินทาง

"365 วันของฉันคือการเดินทาง"
นักข่าว-บล็อกเกอร์-นักเขียนพ็อคเก็ตบุ๊ค-โค๊ชออนไลน์

‘สิงห์ เอสเตท’ ลงทุน 22,000 ขยายธุรกิจโรงแรม

tags: ท่องเที่ยวไทย, เขียนเมื่อ : 05 กุมภาพันธ์ 2563 10:51:08 จำนวนผู้ชม : 818
‘สิงห์ เอสเตท’ ลงทุน 22,000 ขยายธุรกิจโรงแรม

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S” เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจกลุ่มสิงห์ เอสเตท ในช่วง 5 ปี (2020-2024) บริษัทฯ มีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมงบลงทุน 68,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยแผน 5 ปี ครอบคลุมการลงทุน ธุรกิจที่พักอาศัยจำนวน 30 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 37,500 ล้านบาท ธุรกิจคอมเมอร์เชียลหรืออาคารสำนักงานให้เช่า 4 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท และการลงทุนในธุรกิจโรงแรม มูลค่ารวม22,000ล้านบาท ซึ่งปัจจัยในการตัดสินใจลงทุน ได้แก่ สินทรัพย์ที่มีคุณภาพ อยู่ในทำเลที่ดี และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว

สำหรับธุรกิจโรงแรมตามแผนธุรกิจ 2025 ตั้งเป้าขยายธุรกิจสองเท่าตัว หรือเติบโต 15%ต่อปี โดยเพิ่มจำนวนโรงแรมขึ้นจาก 39 โรงแรมเป็น80 โรงแรม ภายใต้บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่12 พฤศจิกายน 2019 ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ครอสโร้ดส์ (CROSSROADS) ที่ประเทศมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นโครงการสำหรับการพักผ่อนและท่องเที่ยวแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรก มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วย เดอะ มารีน่า แอท ครอสโร้ดส์ (The Marina @ CROSSROADS) ที่มีท่าเรือยอร์ชลักชัวรี พร้อมกับพื้นที่รวมร้านค้า ร้านอาหารชื่อดัง ศูนย์เรียนรู้ทางวัฒนธรรม ศูนย์เรียนรู้ทางทะเล บนพื้นที่ 11,000 ตารางเมตร และโรงแรมสองแห่งคือ โรงแรมฮาร์ด ร็อค โฮเทล มัลดีฟส์ (Hard Rock Hotel Maldives) โรงแรมทราย ลากูน มัลดีฟส์ คูริโอ คอลเล็กชั่น บาย ฮิลตัน (SAii Lagoon Maldives, Curio Collection by Hilton) ซึ่งในปี 2020 โครงการจะรับรู้รายได้เต็มปี โดยตั้งเป้ารายได้โครงการมากกว่า2,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากโครงการนี้ นับว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับ SHR

‘สิงห์ เอสเตท’ ลงทุน 22,000 ขยายธุรกิจโรงแรม

นอกจากนี้ SHR ยังได้เตรียมงบลงทุน 5 ปี กว่า22,000 ล้านบาท เพื่อซื้อโรงแรมและรีสอร์ทเพิ่มเติม โดยยังคงเน้นการลงทุนในพื้นที่ที่เป็นTourist Destination ที่สำคัญ เช่น เอเชียแปซิฟิก และเมดิเตอร์เรเนียน เป็นต้น โดย SHR มี Platform การบริหารจัดการที่สามารถรองรับการขยายธุรกิจหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างการเติบโตในระดับสากลได้อย่างรวดเร็ว

“ปี 2020ถือเป็นก้าวสำคัญของสิงห์ เอสเตท ที่จะต่อยอดการเติบโตจากฐานธุรกิจในรูปแบบ Global Holding Company อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งนอกเหนือจากการลงทุนขยายธุรกิจในทุกมิติอย่างยั่งยืนแล้ว(Sustainable Growth) บริษัทฯ จะเริ่มพัฒนาธุรกิจใหม่อย่างพลังงานทดแทน(Renewable energy) ที่จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2020 นี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในตลาดโลกและสร้างความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม”นายนริศ กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นปีที่ สิงห์ เอสเตท มุ่งสร้างแบรนด์ในทุกมิติเพื่อให้เป็นแบรนด์ในระดับพรีเมียมและน่าเชื่อถือ ภายใต้แคมเปญ “Singha Estate Enriching Life สร้างคุณค่าให้ชีวิต”ตั้งแต่การพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพแบบ Best in Class และการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ(Memorable Experience) รวมทั้งการเป็นบริษัทที่เป็นตัวอย่างของนักพัฒนาอย่างยั่งยืน(Business Practitioner) ซึ่งเป็นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่ได้รับมาจากบริษัทแม่ คือกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่

ในเรื่องกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน สิงห์ เอสเตท มีเป้าหมายที่จะเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลกของดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ในระยะยาว บริษัทฯ ได้นำเป้าหมายของUN Sustainable Development Goals มาเป็นเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในหลายๆ ประเภท เช่น SDG13 Climate Action ซึ่งมุ่งลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยลดคาร์บอนในกระบวนการทางธุรกิจ ตั้งแต่การออกแบบที่ประหยัดพลังงาน การก่อสร้างที่เป็นมาตรฐาน และการบริหารจัดการอาคารหรือโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น นอกจากนั้นยังมุ่งส่งมอบโครงการที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต รวมถึงการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่สังคมอีกด้วย โดยในปี 2020 บริษัทฯ มีแผนเปิดศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติที่เกาะสมุย การจัดวิ่งลดขยะทะเล การจัดค่ายผู้นำเยาวชน รวมทั้งกิจกรรมที่สร้างความร่วมมือในการอนุรักษ์ร่วมกับพนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม

ทั้งนี้ภาพรวมทิศทางธุรกิจในปี 2020 จะเป็นปีที่บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มธุรกิจที่พักอาศัยจะมีการโอน ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) และโครงการอื่นๆ ของทั้ง สิงห์ เอสเตท และ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) โดยมี Backlog รวมกว่า 6,000 ล้านบาท และเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลได้รับรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ที่จะเติบโตขึ้นจาก อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ (SINGHA COMPLEX) และอาคารสำนักงานเมโทรโพลิส(METROPOLIS) และ กลุ่มธุรกิจโรงแรมจะมีรายได้เติบโต จากการรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงแรมสองแห่งในโครงการ ครอสโร้ดส์ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ในส่วนการลงทุนบริษัทฯ ยังมีแผนสร้างรายได้ประจำจากอาคารสำนักงานและโรงแรม โดยเตรียมงบลงทุนในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในปี 2020กว่า 5,000 ล้านบาท รวมถึงในเริ่มต้นธุรกิจ Renewable Energy ในปี2020 ซึ่งนับเป็นเส้นทางการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อยอดจากการเป็นGlobal Holding Company อย่างแท้จริง

เกี่ยวกับสิงห์ เอสเตท

สิงห์ เอสเตท เป็นบริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดหลักปรัชญาการเติบโตอย่างยั่งยืน รักษาความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สร้างการเติบโตด้วยพอร์ทการลงทุนที่มีความสมดุลและหลากหลายจากการพัฒนาธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก พื้นที่สำนักงานให้เช่า ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่พักอาศัย มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพสูงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทลงทุนและโฮลดิ้งระดับโลก ที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และนำเสนอคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม

ติดตามข่าวสารท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ได้ที่

www.bloggertravelista.com       

tags: ท่องเที่ยวไทย, จำนวนผู้ชม : 818

© www.bloggertravelista.com 2018