Travelista นักเดินทาง

"365 วันของฉันคือการเดินทาง"
นักข่าว-บล็อกเกอร์-นักเขียนพ็อคเก็ตบุ๊ค-โค๊ชออนไลน์

อุตฯท่องเที่ยวไทยหนักหน่วงสุดในประวัติศาสตร์กระทบ4ล้านคนผลโคโรน่าไวรัส

tags: ท่องเที่ยวไทย, เขียนเมื่อ : 06 กุมภาพันธ์ 2563 17:28:51 จำนวนผู้ชม : 1669
อุตฯท่องเที่ยวไทยหนักหน่วงสุดในประวัติศาสตร์กระทบ4ล้านคนผลโคโรน่าไวรัส

เรียกได้ว่าในยามนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่าและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

สทท.ประชุมด่วนชี้กระทบหนักสุดในประวัติศาสตร์

ที่ห้องประชุมรัชโยธินแกรนด์ ชั้น ๒๐ โรงแรมเดอะบาซาร์ แบงค็อก รัชดา กทม. / เมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น . วันที่ ๕ ก.พ. ๖๓ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) จัดประชุมหารือด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีผู้เกี่ยวข้องในวงจรอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคบริการ (Supply Chain)  จำนวนรวมกับที่เป็นสมาชิกสามัญ ๑๑๒ สมาคมและวิสามัญ (นิติบุคคลประเภทบริษัท) ๒๐๐ สมาชิก รวมเป็นนิติบุคคลที่เป็นสมาชิกรวมกันมากกว่า ๕๐,๐๐๐ นิติบุคคลและเป็นบุคคลากรที่ทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมมากกว่า ๔ ล้านคน

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวสามารถทำรายได้เข้าประเทศกว่า ๓ ล้านล้านบาท หรือประมาณ ๒๐ เปอร์เซนต์ ของรายได้ของประเทศ (GDP) 

อุตฯท่องเที่ยวไทยหนักหน่วงสุดในประวัติศาสตร์กระทบ4ล้านคนผลโคโรน่าไวรัส

ปัญหาจากวิกฤตครั้งนี้ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงดำเนินการจัดประชุมเพื่อศึกษาถึงผลกระทบของผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อหามาตรการนำเสนอแนวทางการแก้ไขและช่วยเหลือจากภาครัฐ และทำการนำข้อสรุปดังกล่าวนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป การประชุมวันนี้ นายชัยรัตน์ ไตรรัตน์จรัสพร และคณะกรรมการบริหารฯ ได้ร่วมกันจัดประชุมหารือผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย และได้ขอให้ผ่อนผันการชาระเงินกู้และดอกเบี้ยของผู้ประกอบการท่องเที่ยวเป็นเวลา ๑๒ เดือน รวมถึงขอให้ภาครัฐช่วยจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำพร้อมออกนโยบายเงื่อนไขการกู้ที่ยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กในวงเงินกู้ ๑ ล้านบาท และผู้ประกอบการขนาดกลางในวงเงินกู้ ๕-๑๐ ล้านบาทเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ

อุตฯท่องเที่ยวไทยหนักหน่วงสุดในประวัติศาสตร์กระทบ4ล้านคนผลโคโรน่าไวรัส

ขอให้ภาครัฐสนับสนุนการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยการร่วมกันของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด โดยมีนโยบายให้หน่วยงานของรัฐช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วน ให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น

นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร กล่าวว่า ผลกระทบต่อท่องเที่ยวไทยในครั้งนี้ถือว่าหนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวไทย ไม่มีครั้งใดที่กระทบหนักเช่นนี้ จึงต้องขอให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างเร่งด่วน เพราะคนตกงานจำนวนมาก

อุตฯท่องเที่ยวไทยหนักหน่วงสุดในประวัติศาสตร์กระทบ4ล้านคนผลโคโรน่าไวรัส

และเนื่องจากประเทศไทย และประเทศจีน เปรียบเสมือนพี่น้องกัน การให้กำลังใจชาวอู่ฮั่น เป็นส่วนหนึ่งที่เราแสดงออกถึงมิตรจิตร มิตรใจ จากใจของคนไทย ขอส่งกำลังใจจากชาวอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ส่งไปถึงชาวจีนทุกคน โดยเฉพาะชาวอู่ฮั่น ขอให้สภาวการณ์เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ววัน

อุตฯท่องเที่ยวไทยหนักหน่วงสุดในประวัติศาสตร์กระทบ4ล้านคนผลโคโรน่าไวรัส

คลังช่วยภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนา

 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง   เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เห็นชอบมาตรการการเงินการคลังเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ปี 2563 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

.

มาตรการการเงินการคลังเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ปี 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ปี 2563 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกประเทศที่เกิดจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย มาตรการด้านภาษี และมาตรการด้านการเงิน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 

 1. มาตรการด้านภาษี

1.1 การขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี ให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามประมวลรัษฎากร ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ซึ่งจะต้องยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีภายในเดือนมีนาคมของปี 2563 ให้ขยายกำหนดเวลาดังกล่าวออกไปเป็นภายในเดือนมิถุนายนของปี 2563 

 

1.2 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือรายจ่ายที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อการอบรมสัมมนาภายในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง 

 

1.3 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงกิจการโรงแรม

ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมหักรายจ่ายสำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายเพื่อการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 เป็นจำนวน 1.5 เท่า ของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง

 

1.4 มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น (น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินฯ) ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินฯ ที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเที่ยวบินในประเทศ จากเดิม 4.726 บาทต่อลิตร เหลือ 0.20 บาทต่อลิตร ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563

.

 2. มาตรการด้านการเงิน

สถาบันการเงินของรัฐมีการดำเนินมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเงื่อนไขผ่อนปรน และการขยายเวลาชำระหนี้และค่าธรรมเนียม เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับเสริมสภาพคล่องและปรับปรุงสถานประกอบการ สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา รวมถึงเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการในช่วงที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ดังนี้

 

2.1 มาตรการขยายเวลาชำระหนี้และค่าธรรมเนียม ได้แก่

 (1) ธนาคารออมสิน ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้ 2 เท่าของระยะเวลาคงเหลือตามสัญญา สูงสุดไม่เกิน 5 ปี

 

 (2) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย พักชำระหนี้เงินต้นสำหรับเงินกู้ยืมระยะยาวที่มีวงเงินคงเหลือไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยต้องมีประวัติการผ่อนชำระหนี้ดีไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนวันเข้าร่วมโครงการ และต้องไม่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

 

 (3) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผัดผ่อนการชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 12 เดือน ต่อเนื่องไม่เกิน 5 ครั้ง หรือสามารถขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้และขยายระยะเวลาการชำระหนี้ได้ไม่เกิน 20 ปี 

 

 (4) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และงวดผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี สำหรับลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ไกด์นำเที่ยว พนักงานโรงแรมผู้ประกอบการรายย่อยที่ขายสินค้าในแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น

 

 (5) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม พักการชำระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อ 12 เดือน สำหรับลูกค้าธุรกิจบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร และโรงแรมที่พักที่ได้รับผลกระทบ

 

อุตฯท่องเที่ยวไทยหนักหน่วงสุดในประวัติศาสตร์กระทบ4ล้านคนผลโคโรน่าไวรัส

2.2 มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเงื่อนไขผ่อนปรน ของธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) วงเงินรวม 123,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 3 ต่อปี

กระทรวงการคลังคาดว่า มาตรการการเงินการคลังข้างต้นจะช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ปี 2563 ในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยจะช่วยเสริมสภาพคล่องและแบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบการ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น สนับสนุนการปรับปรุงกิจการโรงแรม ซึ่งจะมีส่วนเป็นการจูงใจนักท่องเที่ยวให้เกิดการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น รวมถึงบรรเทาผลกระทบให้แก่อุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย โดยสอบถามรายละเอียดมาตรการด้านภาษี โปรดติดต่อ

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3512/3529/3505 สอบถามรายละเอียดมาตรการด้านการเงิน โปรดติดต่อ ธนาคารออมสิน  โทร. 1115 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 0 2555 0555 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 0 2645 9000 ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย  โทร. 1357 บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม  โทร. 0 2890 9999 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  โทร. 0 2111 1111

อุตฯท่องเที่ยวไทยหนักหน่วงสุดในประวัติศาสตร์กระทบ4ล้านคนผลโคโรน่าไวรัส

มุมมองจากท่านอดีตรมต.ท่องเที่ยว วีระศักดิ์ โควสุรัตน์

ทางด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้มุมมองต่อวิกฤตที่เกิดขึ้นว่า ช่วงนี้ทุกประเทศที่เคยต้อนรับตลาดจีนเยอะๆ ต้องบาดเจ็บจากการขาดรายได้ทั่วกันทุกประเทศ..มากน้อยคงตามลำดับไป ไทยดูจะมากหน่อย..

แต่ในสถานการณ์ที่จะใช้เวลาจนกว่ามนุษย์จะควบคุมโรค..หาทางรักษาที่มั่นใจได้...และอาจแม้แต่ค้นเจอวิธีป้องกันได้ด้วยยาหรือวัคซีนสูตรใหม่ เชื่อว่าต้องไม่น้อยกว่าสามเดือนนับแต่นี้ไป...สิ่งที่ไทยควรใช้วิกฤตนี้ให้เกิดเป็นโอกาสสองเรื่องทันทีคือ

ข้อ1.คิดเสียว่าวันที่ห้องรับแขกของเราจะไม่ยุ่งนัก...นี่แหละคือวันที่จะทาสีผนัง..ซ่อมเฟอร์นิเจอร์..เปลี่ยนหลังคาฝ้าเพดาน..หรือเปิดอบรมบุคลากรถอดประสบการณ์กันยกใหญ่

ผมเห็นว่าเวลานี้ฝ่ายการตลาดก็ทำในสิ่งที่ทำได้ไป..แต่ฝ่ายพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว..ฝ่ายพัฒนามาตรฐานบริการท่องเที่ยว..ฝ่ายปรับปรุงระบบคิวรอคอยในการเดินทาง..ฝ่ายพัฒนาบุคลากรการท่องเที่ยว..ฝ่ายปรับปรุงถนนหนทางทางเท้าทางลาด..ฝ่ายทบทวนปรับแก้กฏหมาย..ฝ่ายออกและกำกับใบอนุญาตควรรีบใช้จังหวะนี้ ดำเนินการในเรื่องที่ปกติท่านจะไม่มีเวลาว่างถึงสามสี่เดือนเพื่อแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหา..ซึ่งผมแน่ใจว่ามีหมกกันอยู่ใต้พรมเยอะพอดู..งัดเอาออกมาแกะแก้ซะเลย กิจกรรมเหล่านี้ทำข่าวได้..ฝ่ายการตลาดก็เอาไปนำเสนอยั่วใจให้คนอยากมาลองโฉมใหม่ของบริการในไทยกัน

รัฐและสถาบันการเงินมานั่งตกลงหาทางสนับสนุนให้ผู้ที่กำลังจะปรับยกมาตรฐานใดๆ..ได้เข้าถึงเงินกู้เพื่อการลงทุน..โดยมีเงื่อนไขผ่อนปรน แบบนี้..เราก็จะได้"นิว"Thai tourism standards ที่ยั่งยืนขึ้น..แข่งขันได้ดีขึ้น..และเป็นธรรมต่อทุกๆอย่างทุกๆฝ่ายมากขึ้น

ข้อ2.ใช้โอกาสนี้ เร่งทำการวิจัย สมุนไพรและอาหารตำรับไทยๆ..ว่ามีสรรพคุณอย่างไรในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ อะไรกิน..ทา..อม เคี้ยว....เหน็บ..สวน..แล้วได้ผลทางวิทยาศาตร์อย่างไร..ใช้ป้องกันไวรัสหรือเชื่อร้ายอะไรได้บ้าง..แก้หรือลดพยาธิสภาพอะไรได้แบบไหน

จะได้นำมาจดทะเบียน..ทำหีบห่อ..ให้เป็นสินค้าระดับโลกกับเขาได้

ทำสองอย่างนี้ได้แค่ไหนก็ดีต่อทั้งสุขภาพไทยไม่ว่าจะร่างกายหรือเศรษฐกิจ โดยเน้นให้คนท้องถิ่นได้ประโยชน์ ลดความเหลื่อมล้ำ..สร้างความเป็นธรรม..ลดความยากจน..กันได้ในภาวะที่โลกจะยังต้องเจอกับอีกสารพัดอุปสรรคไปเรื่อยๆต่อแต่นี้ เราควรมองให้เห็นมุมที่ได้กำลังใจ..แล้วเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน รายได้หาย..แต่ถ้าทำอะไรได้ดีขึ้น..เราก็จะฟื้นเร็วและกลับมาอย่างแข็งแรงกว่าเดิม

ก.ท่องเที่ยวฯเตรียมรับมือ “โคโรนา” กระทบอุตฯท่องเที่ยวไทย

http://www.bloggertravelista.com/blogs/312

ครม.ออกหลายมาตรการช่วยท่องเที่ยวหลังกระทบหนักจากโคโรน่า

http://www.bloggertravelista.com/blogs/324

tags: ท่องเที่ยวไทย, จำนวนผู้ชม : 1669

© www.bloggertravelista.com 2018