มีโอกาสได้รับเชิญจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยศาสตราจารย์ นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และ ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยมุ่งเป้า สกว.รวมถึง ดร.กรวรรณ สังขกร (หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาการท่องเที่ยว สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ไปเที่ยวชมเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้เป็นที่เที่ยวอินเทรนด์ของชาวจีนเลยทีเดียว
ก่อนจะไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆเราไปฟังการเสวนา “การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลาดนักท่องเที่ยวจีน” ที่วัดต้นแกว๋น จังหวัดเชียงใหม่ ผู้หลักผู้ใหญ่มากันเพียบทั้ง คุณปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คุณชวนพิศ เมืองวงค์ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ คุณผ่องพรรณ ศิริวัฒนาวงศา รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ คุณมิ่งขวัญ เมธเมาลี อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) ได้ฟังความน่าสนใจของเชียงใหม่ในหลายมุมมอง โดยเฉพาะพฤติกรรม จีนนิยมในเชียงใหม่
7 อินเทรนด์ของนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่
1 เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ผิดคาดถนัด เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มักเห็น “ทัวร์จีน” เต็มไปหมด แต่จากผลการสำรวจกลับพบว่า นักท่องเที่ยวจีนร้อยละ 89.1 นั้น เดินทางมาเที่ยวด้วยตนเองทั้งสิ้น
2 พีคสุดช่วงหยุดยาว จะ High Seasons หรือ Low Seasons ก็ไม่ได้มีผลมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ไม่ได้เที่ยวตามฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ช่วงที่พวกเขาเดินทางกันแบบพีคๆ คือช่วงเทศกาลตรุษจีนและวันชาติจีน อันเป็นวันหยุดต่อเนื่อง 7-10 วัน นั่นเอง
3 ทริปเขียวเที่ยวเพลิน จุดดึงดูดไม่ได้อยู่ที่แสงสี แต่แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เขียวชอุ่ม นี่สิที่นักท่องเที่ยวจีนชื่นชอบนักหนา
4 หลงเสน่ห์โรงแรมบูติค โรงแรมขนาดกะทัดรัดกับบรรยากาศอันอบอวลด้วยกลิ่นอายของอาคารโบราณ พร้อมประดับประดาเครื่องใช้ไม้สอยสไตล์ย้อนยุค คือเสน่ห์ของ Boutique Hotel ที่นักท่องเที่ยวจีนร้อยละ 43.2 นิยมชมชอบเอามากๆ
5 เหลาไม่อิน ท้องถิ่นสิดี ร้อยละ 56.5 ของนักท่องเที่ยวจีน ฟินกับอาหารท้องถิ่นไม่ใช่อาหารเหลาหรูหรา แล้วที่ชื่นชอบมากๆ นั้นก็หนีไม่พ้นเมนูยอดฮิต อย่าง ต้มยำกุ้ง ผลไม้ตามฤดูกาล ผัดไทย อาหารทะเล ข้าวผัด ส้มตำ โดยเฉพาะ “ข้าวเหนียวมะม่วง”
6 หิ้วของแห้ง ของฝากจากแดนไทยที่นักท่องเที่ยวจีนหอบหิ้วข้ามโพ้นทะเลกลับบ้าน ก็ยังคงเป็นหนึ่งในอาหารที่ถูกปากติดใจ อย่าง ผลไม้ตามฤดูกาล แต่จะให้หิ้วง่าย ได้ปริมาณมาก และเก็บไว้รับประทานได้นาน ก็ต้อง “ผลไม้อบแห้ง” ทั้งลำไยอบแห้ง มะม่วงอบแห้ง สับปะรดอบแห้ง ฯลฯ
7 นวดไทยชนะขาด เมื่อส่วนใหญ่ปักหมุดการเดินทางว่าจะมาเพื่อพักผ่อนคลาย ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและจิตใจเป็นหลัก “นวดแผนโบราณ” จึงกลายเป็นกิจกรรมที่ร้อยละ 75.5 ของนักท่องเที่ยวจีนไม่พลาด ตามมาด้วยกิจกรรมจับจ่ายซื้อของ ขี่ช้าง นวดสปา ชมคาบาเรต์ โหนสลิง และล่องแก่ง
ฟังผลการวิจัยจาก 3 ผู้บริหาร
ก่อนรับประทานอาหารเย็น ในรูปแบบกาดหมั้วที่วัดต้นเกว๋น หรือ วัดอินทราวาส แห่งนี้ เป็นวัดที่มีความสวยงามเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของเชียงใหม่
แม้เป็นเพียงวัดเล็กๆ แต่ก็มีคุณค่ามากมายทางด้านสถาปัตยกรรม โดยตัววิหารที่เป็นไม้เก่านั้น ได้รับการแกะสลักลวดลายต่างๆ ประณีตงดงาม ถือเป็นต้นแบบ ทางศิลปกรรมล้านนาที่มีคุณค่าและยังคงความสมบูรณ์ จนสมาคมสถาปนิกสยามประกาศให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น เมื่อปี พ.ศ.2532
และสถาปัตยกรรมจากวัดต้นเกว๋นแห่งนี้เองได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้สถาปนิกใช้เป็นต้นแบบ ในการออกแบบหอคำหลวงซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางอุทยานหลวงราชพฤกษ์ และหลายครั้งที่วัดแห่งนี้ถูกใช้เป็น สถานที่ถ่ายทำละครย้อนยุคที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมอันคลาสสิกของล้านนา
ส่วนที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่เราได้ไป ปางช้างแม่แตง ตั้งอยู่หมู่บ้านแม่ตะมาน ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศเหนือ 52 กิโลเมตร ที่ปางช้างแม่แตงนักท่องเที่ยวจะได้พบกับช้างจำนวนมาก ที่แสดงความสามารถและความน่ารักให้ได้ชมกัน เช่น การวาดรูป เล่นฟุตบอล
ช้างใส่หมวกให้เราด้วย
ที่นี่ยังให้บริการที่จะสร้างความประทับใจ เช่น การนั่งช้างชมทัศนียภาพของป่าเขาลำเนาไพร
ที่นี่มีช้างอยู่กี่ตัวมาดูในทำเนียบช้างกันค่ะ
เราได้ไปแวะเที่ยวชมพร้อมทั้งซื้อของที่ระลึกจากชาวเขา ซึ่งมีกะเหรี่ยงคอยาวจำนวนมากพักอาศัยอยู่ ไม่เคยรู้เลย นึกว่าอยู่กันแต่แถวแม่ฮ่องสอน
จากนั้นนั่งแพไม้ไผ่เพื่อชมทิวทัศน์ของลำน้ำแม่แตง
และเพื่อกระจายการท่องเที่ยวจากเชียงใหม่ซึ่งก่อนข้างหนาแน่น สกว.สนับสนุนการท่องเที่ยวสู่เมืองรองอย่างลำพูนและลำปาง
เราได้ไปเที่ยวที่บ้านธิ ต.บ้านธิ อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นชุมชนที่มีความโดดเด่นของวิถีชีวิต และวัฒนธรรมชุมชน ของ 3 กลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ ไตลื้อ ไตยอง ไตยวน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “เมืองสามไต” ที่ยังคงความเหนียวแน่น เป็นเอกลักษณ์และยังคงความมีมนต์เสน่ห์แห่งเมืองสามไต
นอกจากนั้นยังมีโบราณสถาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใส เคารพบูชาของคนในพื้นที่ และชมการทำนาเกี่ยวข้าวของที่นี่
ศ.นพ.สุทธิพันธ์และผศ.สุภาวดี แห่งสกว.นำทีมสาธิตการเกี่ยวข้าว เพื่อสร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยว
เราเองก็สนุกสนานมากที่นี่
ลำพูนมีอีกหลายแห่งน่าเที่ยว เพราะแม้เป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดในภาคเหนือ แต่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ มีอายุประมาณ 1,300 กว่าปี
เราได้ไปวัดจามเทวีด้วยการนั่งรถราง
แล้วไปที่วัดสันป่ายางหลวง สวยอลังการงานสร้างมาก
ไปชมกู่ช้างกู่ม้า ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้เลือกให้อยู่ในแคมเปญ “เขาเล่าว่า” ที่กล่าวถึง“กู่ช้าง-กู่ม้า” หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองลำพูน ที่มาพร้อมกับตำนานอัศจรรย์อันน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งเกี่ยวพันกับ“พระนางจามเทวี”ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย
จากนั้นไปต่อที่จังหวัดลำปาง เป็นจังหวัดที่มีความเก่าแก่และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาแล้วไม่น้อยกว่า 1,300 ปีเช่นกัน ตั้งแต่สมัยหริภุญชัย (พระนางจามเทวี)
ลำปางมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ที่มีความผสมผสานระหว่างศิลปล้านนาและศิลปพม่า ทั้งยังมีจุดเด่นในการนั่งรถม้าเที่ยวชมเมืองเก่า ซึ่งเป็นเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทย
ไปเยี่ยมชมชุมชนท่ามะโอ จังหวัดลำปาง เป็นชุมชนเก่าแก่ของเมืองมีมาตั้งแต้สมัยที่ชาวพม่าเข้ามาทำการค้าไม้สักกับชาวอังกฤษในจังหวัดลำปาง
แวะบ้านหลุยส์ ซึ่งเคยรับสัมปทานทำไม้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 หรือหลุยส์ ทีเลียวโนเว่นส์ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้หรือออป.
ภายในชุมชนท่ามะโอมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมล้านนา เช่น วัดประตูป่อง ที่มีความเก่าแก่มากกว่า 100 ปี
แล้วไปวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม เป็นวัดที่เก่าแก่และสวยงามมีอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1979 เป็นเวลานานถึง 575 ปี
สถาปัตยกรรมในกาดกองต้า คืออาคารโบราณอายุนับร้อยปีที่ยังคงตั้งอยู่สองข้างทางเดินในกาดกองต้า เพื่อให้ผู้คนที่แวะผ่านมา ได้กวาดสายตามองเห็นคุณค่าของสถาปัตยกรรมโบราณที่ถูกอนุรักษ์ไว้จากรุ่นสู่รุ่น แสดงให้เห็นถึงอารยธรรมความเจริญรุ่งเรืองทางการค้าในสมัยโบราณ ในแบบที่หาดูได้ยากขึ้นทุกที
แวะเยี่ยมชมหอศิลป์ลำปางกาดกองต้า ทานอาหารสไตล์เหนือ
มีโอกาสไปเดินเล่นที่สะพานรัษฎา
เยี่ยมตลาดเช้าปลายสะพาน
และเยี่ยมชมตลาดเปิดใหม่ของลำปาง เป็นตลาดของคนรุ่นใหม ที่กลับคืนถิ่น We market Lampang เป็นการรวมตัวของ 37 ร้านค้า เร็วๆนี้จะมีช้อปจริงจัง ขายวันอาทิตย์ 6โมงถึง11โมง ที่ถนนพระเจ้าทันใจซอย1
หัวหน้ากลุ่มคือกฤษดา เขียวสนุก โทร 0831545834 เขาบอกว่า Theme ตลาดขายคือการขายเป็นการต่อยอดหรือโบนัส รายได้จากตลาดแค่วันอาทืตย์แต่ทำให้คนตามไปฟาร์มทุกวัน เป็นตลาดปลอดภัยสารพิษจะขยายไปออร์แกนิคส์เต็มรูปแบบในอนาคต
ก่อนเดินทางกลับกทม.อย่างสุขใจ
ขอบคุณสกว.ที่เชื้อเชิญไป และขอบคุณภาพบางส่วนจากคุณนิธิ สืบพงษ์สังข์และบล็อกเกอร์ชายสามหยด
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวได้ที่ Facebook Travelista นักเดินทางนะคะ