วันนี้พามาเที่ยวนครราชสีมากันค่ะ
มาเที่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในโครงการตะลอน On The Route บล็อกเกอร์หรรษา พาเที่ยวใกล้กรุง ยุค New Normal ก็อยากจะชวนเที่ยวกับบล็อกเกอร์อย่างเราๆ เพื่อส่งเสริมการเดินทางในประเทศให้มากขึ้นหลังโควิด 19 ก็อยากสนับสนุนให้เพิ่มการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้พื้นที่
นครราชสีมา “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน”
นครราชสีมา หรือที่เรียกว่า “โคราช” เปรียบเสมือนประตูสู่ภาคอีสาน เป็นเมืองใหญ่บนดินแดนที่ราบสูง ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยว ผู้มาเยือนจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งเดินป่าศึกษาธรรมชาติ พักผ่อนหย่อนใจริมอ่างเก็บน้ำ ชื่นชมความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมขอมโบราณ และเรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้าน ทั้งยังได้อิ่มอร่อยกับอาหารอีสานต้นตำรับ ก่อนกลับยังได้ซื้อหาสินค้าเกษตรหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีให้เลือกอีกมากมาย
เริ่มที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย ได้รับการประกาศให้เป็น ‘มรดกโลก’ มีพื้นที่กว่า 1.3 ล้านไร่ อุดมด้วยพืชและสัตว์นานาชนิด ทั้งช้างป่า, กระทิง, วัวแดง, เสือโคร่ง, นกเงือกต่างๆ ฯลฯ รวมถึงมีน้ำตกเหวนรกเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ พร้อมเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
จากนั้นแวะชิมผัดหมี่โคราช ในบรรดาเมนูเส้นระดับตำนานของไทย ต้องบอกเลยว่าหนึ่งในนั้นต้องมี ‘ผัดหมี่โคราช’ ติดโผแน่นอน เพราะเป็นอาหารขึ้นชื่อลือชาที่มีเอกลักษณ์ จนกลายเป็นอาหารรับแขกบ้านแขกเมืองผู้มาเยือนโคราช เส้นหมี่โคราชคล้ายกับเส้นเล็ก มีความเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ ผัดไม่เละ จึงน่ารับประทานกว่าเส้นเล็กทั่วไป นิยมทำมาจากข้าวเก่า เพราะถ้าใช้ข้าวใหม่ทำเส้นจะไม่สวย เส้นจะติดกัน เพราะเหนียวเกินไป ในการผัดมีเครื่องปรุงเพิ่มรส คือ หอมเล็กซอยละเอียด, รากผักชี, กระเทียม, พริกไทยโขลก, เต้าเจี้ยว, น้ำปลา, น้ำตาลปี๊บ, น้ำมะขามเปียก, พริกป่น และซีอิ๊วดำ เหตุที่ทำให้เส้นหมี่โคราชมีสีน้ำตาลแดงเวลาผัดเสร็จ เพราะตอนผัดจะเริ่มด้วยการเคี่ยวน้ำตาลกับน้ำมันพืช จนละลายเป็นสีน้ำตาลแดงก่อนนั่นเอง จากนั้นเมื่อใกล้เสร็จ จะใส่ต้นหอมหรือกุยช่ายลงไป โดยพลิกเส้นทับไว้สักระยะ ให้ผักยังคงความกรอบตอนเสิร์ฟ ทานคู่กับถั่วงอกสด บีบมะนาวลงไปนิดหน่อยอร่อยเด็ด ผัดหมี่โคราชแท้ต้องมี 3 รสกลมกล่อม คือ หวาน เค็ม และเผ็ดจากพริกป่นเท่านั้น
กราบสักการะอนุสาวรีย์ย่าโม วีรสตรีผู้มีส่วนกอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ กษัตริย์ลาว เมื่อปี พ.ศ. 2369 ภายหลังท่านได้รับการสถาปนาเป็น ‘ท้าวสุรนารี’ ปัจจุบันอนุสาวรีย์ท่านอยู่ที่เทศบาลเมืองนครราชสีมา
ปราสาทพะโค อยู่ที่ตำบลกระโทก อำเภอโชคชัย เป็นเทวสถานขอม 3 หลัง สร้างจากหินทรายสีขาว มีลายจำหลักหินเหนือโคปุระสวยงาม มีชิ้นส่วนหน้าบันบ่งบอกถึงอิทธิพลบาปวน ประมาณพุทธศตวรรษที่ 16
แวะเที่ยวชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวน ที่มีทุนทางวัฒนธรรมเป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่น ชุมชนชาวไท-ยวน มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันเป็นเสน่ห์ดั้งเดิม ทั้งด้านการนุ่งซิ่น ประเพณีหล่อกระทงเทียนลอยเคราะห์ การประดิษฐ์พานบายศรี และการลำแคน
ไท-ยวน หรือ ไทยโยนก ซึ่งอยู่ทางเหนือได้อพยพเข้ามาอยู่ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา 2 ทางคือ กลุ่มแรกอพยพจากทางเหนือมาอยู่ที่ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ต่อมาเจ้าเมืองสระบุรีต้องการตั้งกองเลี้ยงโคนมที่เมืองนครจันทึก จึงได้แบ่งครอบครัวชาวไท-ยวนจากอำเภอเสาไห้ไปอยู่ที่อำเภอสีคิ้ว ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งอพยพมาจากเวียงจันทน์
กลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวนยังคงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมแบบโยนกไว้จบจนทุกวันนี้ ทั้ง ภาษาไท-ยวน ใช้พูดในหมู่ไท-ยวนด้วยกันเอง และผ้าไทย-ยวน โดยปัจจุบันมีชาวไท-ยวนอยู่ประมาณ 5,000 คน ในเขตอำเภอสีคิ้ว ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนที่มีชาวไท ยวนอาศัยอยู่มาเป็นเวลานาน ตั้งแต่นครจันทึกจนมาถึงอำเภอสีคิ้วในปัจจุบัน มีความโดดเด่นในเรื่องเฉพาะตัวด้านภาษา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และการทอผ้า
เรือนไทยวน จะจำลองวัฒนธรรมไทยวนที่ตกทอดกันมาในสีคิ้ว ซึ่งตัวบ้านจะมีลักษณะเด่นตรงที่จะตั้งขวางตะวันแบบเดียวกับเรือนทางเหนือ โดดเด่นที่จั่วพระอาทิตย์รับแสงสว่าง ซึ่งมีความหมายถึงความรุ่งโรจน์กับการเริ่มต้นที่ดี และผ้าทอพื้นเมืองไทยวน ซึ่งเป็นผ้าฝ้ายทอสีสันสดใส ลวดลายของผ้ามีความละเอียดสวยงามเป็นเอกลักษณ์
วัดใหญ่สีคิ้ว ชมสวนเกษตรพอเพียง และสาธิต ทำ ปลูก การดำนา การปลูกพืชทางการเกษตร ทำน้ำสมุนไพรด้วยตัวเอง เสริฟด้วยกระบอกไม้ไผ่ ห่อด้วยผ้ายวน ทานอาหารกลางวันปิ่นโต ห่อด้วยผ้ายวน ท่องเที่ยวตามเส้นทางไป เขาจันทร์งาม กังหันลมเขายายเที่ยง เขาใหญ่
หากใครแวะเวียนไปโคราช ก็ต้องสะดุดตากับวัดใหญ่ๆข้างทางที่สวยงามอลังการ นั่นคือ “อุทยานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)” อำเภอสีคิ้ว เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อทองเหลือง หลวงพ่อโต (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) ขนาดใหญ่ ดำเนินการสร้างโดยสรพงศ์ ชาตรี นักแสดงภาพยนตร์ชื่อดัง จนคนเรียกกันว่า “วัดสรพงษ์” ร่วมกับพุทธศาสนิกชนที่ให้ความศรัทธา นับถือบูชาหลวงปู่โต ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะคาถาชินบัญชรอันโด่งดัง
นอกเหนือจากความสวยงามของวิหารที่ร่มรื่น และมีศิลปะผสมผสานที่สวยงามแล้ว ยังมีการหล่อก่อสร้างรูปหล่อเหมือนของสมเด็จโต หล่อมาจากทองเหลืองมีน้ำหนัก 61 ตัน ความสูงเทียบได้เท่ากับตึก 2 ชั้น ใช้เทคนิคตอนหล่อทองเหลืองช่างจะหล่อเป็นชั้นๆ รวม 127 ชิ้น สร้างเพื่อให้ประชาชนเข้ากราบไหว้ และด้านในยังมีอาหารให้รับประทานฟรี มีราดหน้าอร่อยมากๆ หลายคนถึงขนาดบอกว่าเป็น “โรงทานที่ราดหน้าอร่อยที่สุดในประเทศไทย”
บางคนเปรียบว่าที่นี่ประดุจดังสรวงสวรรค์ จากบริเวณที่งดงาม ร่มรื่น มีทุ่งดอกไม้สวยงามมาก สระน้ำเย็นตา เหล่าหงส์ว่ายน้ำเล่นเย็นใจ และมีร้านกาแฟหลวงปู่ ที่มีกาแฟเย็นอร่อยชื่นใจ ไปแล้วก็อยากกลับไปอีก
วัดป่าภูผาสูง เป็นสำนักปฏิบัติธรรมกรรมฐานสาย ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขา มีเนื้อที่ จำนวน 2,800 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ต. มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ. นครราชสีมา ซึ่งที่นี้ได้รับการกล่าวขานว่ามีกระรอกขาวฝูงใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ ประกอบด้วยพระธาตุจอมผา เป็น “พระบรมธาตุเจดีย์ศรีภูผาสูง” หรือพระธาตุจอมผา คือพระเจดีย์ที่ประกอบไปด้วยเครื่องสักการะสูงสุดเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุอรหันต์ธาตุ สร้างจากศรัทธาของพุทธนิกชนและยังมีสำนักปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาวัด
เที่ยวสวนสัตว์โคราช เหมือนได้ไปซาฟารีระดับโลก เมื่อเอ่ยถึง “5 นักล่าผู้ยิ่งใหญ่” หรือผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า (Big Five) นั่นคือสิงโต, ช้างแอฟริกัน, เสือดาว, ควาย และแรด สัตว์เหล่านี้เป็นที่นิยมสำหรับนักผจญภัยในทวีปแอฟริกา และการได้เที่ยวในครั้งเดียวก็ยากนักที่จะเห็นเหล่าบรรดา 5 ผู้ยิ่งใหญ่ได้ครบ แต่การท่องเที่ยวเพื่อชมผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในแอฟริกาเท่านั้น ยังมีอีกหลายพื้นที่ในโลกที่ยังเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่า 5 ชนิดนี้ครบ
คุณอาจจะไม่ต้องไปถึงป่าสงวนแห่งชาติ มาไซ มารา ในเคนยา และอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติในแทนซาเนีย แต่คุณจะสามารถพบ5 นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ได้ที่เมืองไทยในการไปครั้งเดียว
นั่นคือที่สวนสัตว์นครราชสีมา ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาแค่นิดเดียว ประมาณ 19 กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนราชสีมา-ปักธงชัย ดินแดนซาฟารีแห่งภาคอีสาน