นึกถึงเมืองหนึ่งที่เคยไปมาแล้วชอบมาก อะเมซิ่งมากๆ สำหรับเอดินบะระ เมืองต้นกำเนิดหนังแฮรี่ พอตเตอร์ ที่เจเค โรลลิ่งได้แรงบันดาลใจจากเมืองนี้จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดัง

ตอนนี้สิ้นดยุกแห่งเอดินบะระ เจ้าชายฟิลิป เลยขอเล่าถึงเมืองนี้ และขอร่วมไว้อาลัยต่อคุณงามความดีที่พระองค์เคยสร้างไว้ สื่อต่างๆเคยบอกว่าพระองค์เป็นเสมือนลมใต้ปีกที่สนับสนุน “ควีนเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ” ในฐานะพระราชสวามี ถือได้ว่าทรงเป็นคู่ทุกข์คู่ยากที่กอดคอร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างแท้จริง ช่วยกันนำพาสถาบันฟันฝ่าวิกฤติมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

ดยุกแห่งเอดินบะระ (Duke of Edinburgh) เป็นบรรดาศักดิ์ชั้นดยุกในบรรดาศักดิ์แห่งสหราชอาณาจักร (ตั้งตามชื่อเมืองเอดินบะระของสกอตแลนด์) บรรดาศักดิ์นี้ได้พระราชทานครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 โดยสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 เพื่อพระราชทานแก่พระชามาดา (ลูกเขย) ในวโรกาสงานพระราชพิธีเสกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธ พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ของพระองค์

เจ้าชายฟิลิปได้ทรงสละฐานันดรในฐานะของเจ้าชายแห่งกรีซและเดนมาร์ก พร้อมทั้งทรงสละสิทธิในราชบัลลังก์กรีกอีกด้วย ต่อมาในปีพ.ศ. 2500 ดยุกแห่งเอดินบะระ จึงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็น เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ ในฐานะ "เจ้าชายแห่งสหราชอาณาจักร"

เอดินบะระ (Edinburgh) เมืองหลวงของสกอตแลนด์ที่มีอายุเป็นพันปี และมีที่เที่ยวที่คลาสสิคและสวยงามมาก มีความแตกต่างระหว่าง 2 ถนนหลักของเมืองที่ห่างกันนิดเดียวแบบสุดขั้ว ถนนสายหนึ่งคือถนนแห่งเมืองพันปี อีกถนนคือตึกรามบ้านเรือนและร้านค้าสมัยใหม่

ไฮไลท์อยู่ที่ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) สุดขลังและอลังการมาก เหมือนเดินย้อนไปในพันปีที่แล้ว ปราสาทต้นแบบของ Hogwart School ที่มาของแฮรี่ พอตเตอร์ ถือเป็นสถานที่สำคัญที่สุดและเป็นทำเลที่สุดยอดที่สุดของป้อมปราการในประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์ ที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมามากกว่าหนึ่งพันปี เริ่มมาตั้งแต่ยุคกลางโดยเริ่มต้นจากการเป็นพระราชวังของคิงเดวิดที่ 1 (ปี ค.ศ. 1124) และเปลี่ยนถ่ายเป็นพระราชวังขององค์กษัตริย์ต่างๆ 

จนสุดท้ายได้ถูกเปลี่ยนเป็นป้อมปราการและฐานทัพทหารแทนในศตวรรษที่ 17 เพราะกษัตริย์ราชวงศ์สจวต (Stewart dynasty) ในสมัยนั้น ได้ย้ายพระราชวังไปอยู่ที่ พระราชวังโฮลีรูด (Holyrood Palace) สุดปลายถนนรอยัลไมล์ (Royal Mile) อีกฝั่งแทน

ถนนเมืองเก่า รอยัลไมล์ (Royal Mile – Edinburgh Old Town) ถนนเส้นนี้ถือเป็นถนนหลักของเมืองเลยก็ว่าได้ เพราะต้นสายของถนนเส้นนี้คือ ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) ส่วนสุดปลายถนนอีกด้าน คือ พระราชวังโฮลีรูด (Palace of Holyroodhouse) ตลอดทางยังมีตึกและโบราณสถานสำคัญมากมายของเอดินบะระอีกด้วย เช่น วิหารเซนต์ไจลส์ (St. Giles Cathedral) ที่ใหญ่โต ซึ่งที่นี่เราสามารถเดินเข้าไปชมความสวยงาม และความอลังการของวิหารได้ 

ของฝากดังคือผ้าแคชเมียร์ที่ขายกันมากมาย มี Scott Piper หรือชายเป่าปีสก๊อตก็เป็นอีกสัญลักษณ์ของประเทศนี้

Scott Monument เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหม่ อนุสาวรีย์สีดำทมึนปลายแหลมนี้ เป็นสถาปัตยกรรมแบบวิคทอเรีย-กอธิค จึงดูหยดย้อยและน่าเกรงขาม ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับนักเขียนชื่อดังชาวสกอต Sir Walter Scott

เขาคาลตัน (Calton Hill) จาก รอยัลไมล์ (Royal Mile) เดินทะลุผ่านสถานีรถไฟ Edinburgh Waverley สามารถเดินต่อมายังเขาคาลตัน (Calton Hill) บรรยากาศดี สามารถมองเห็นวิวเมืองเอดินบะระได้รอบทิศ ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ที่สวยที่ของเมือง ด้านบนนั้นยังมีอนุสาวรีย์อย่าง เช่น อนุสาวรีย์แห่งชาติสกอตแลนด์ (National Monument of Scotland) ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารสก๊อตที่เสียชีวิตในสงครามนโปเลียน ซึ่งรูปร่างหน้าตาอนุสาวรีย์นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากวิหารพาร์เธนอน

อีกมุมที่มองเห็นเมืองโดยรอบ

ตอนนี้ยืนรับลมเย็นๆบนเขาค่ะ

หรือจะใช้บริการรถบัสพาชมเมืองก็ได้

พาเที่ยวเอดินบะระกับ สาธิตา โสรัสสะ (Facebook Travelista นักเดินทาง)