ได้รับการเชื้อเชิญจากสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ร่วมกับ หนีกรุง คอนเน็ค ให้ไปชมเทศกาลดนตรีแจ๊สสุดยิ่งใหญ่แห่งปี Thailand  International  Jazz  Festival  2018 จะพลาดได้อย่างไร

ท่ามกลางอากาศหนาวที่กลับมาเยือนเชียงรายอีกรอบในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561

เราได้ไปเยือนไร่สิงห์ปาร์ค เพื่อชม Thailand  International Jazz Festival 2018 ที่กำหนดจัดขึ้น ในวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2561 ณ ไร่สิงห์ปาร์ค นำโดยเหล่าศิลปินชื่อดังคุณภาพระดับโลก พร้อมศิลปินแจ๊สแถวหน้าของเมืองไทย มาร่วมถ่ายทอดเสียงเพลงท่ามกลางบรรยากาศหนาวเย็นและธรรมชาติสวยงามแห่งขุนเขา 

หนาวได้ใจเลยอุณหภูมิไม่ถึง 20 องศา

การจัดงานเทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติ 2018 นี้ ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบแนวเพลงแจ๊สได้สัมผัสกับกับนักร้องและนักดนตรีคุณภาพระดับโลก ยังมีการจัดเวิร์คช้อปให้นักศึกษาสาขาดนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้และทักษะเยาวชนที่สนใจด้านดนตรี ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์

โดยมีนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมจาก 10 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศไทยและสิงคโปร์ ได้แก่ มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยรังสิต, มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, มหาวิทยาลัยมหิดล , มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย , มหาวิทยาลัยขอนแก่น . มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และมหาวิทยาลัยพายัพ และ Lasalle College of the Arts ที่เดินทางมาไกลจากสิงคโปร์

โดยการนี้ได้ซูซาน เดอ จอง  (Susan De Jong) นักร้องเพลงแจ๊สคุณภาพจากประเทศออสเตรเลีย ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการร้องเพลงแจ๊สสไตล์ Traditional Swing มาร่วมถ่ายทอดเทคนิคในการเล่นดนตรีแจ๊ส

 พร้อมด้วยโจอี้ อเล็กซานเดอร์ นักดนตรีรุ่นเยาว์แต่ความสามารถระดับโลกมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจ

ค่ำคืนนั้นได้ชม ไบรอัน แม็กไนต์ (Brian McKnight) ศิลปินชาวนิวยอร์กที่ได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่อวอร์ดถึง 16 ครั้ง ทุกเพลงของเขาเพราะมาก

เขาเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง นักเรียบเรียงเพลง โปรดิวเซอร์ ในแนวเพลงป็อปและอาร์แอนด์บี

นอกจากนี้เขายังสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายประเภททั้ง เปียโน กีตาร์ กีตาร์เบส กลอง เพอร์คัชชัน ทรอมโบน ทูบา เฟรนช์ฮอร์น และทรัมเปต

แสงสีเสียงจัดเต็ม

นับตั้งแต่อัลบั้มแรกในชื่อ Brian McKnight ปี 1992 ไบรอันผลิตผลงานเพลงออกมาแล้วทั้งหมด 14 ชุด และมีเพลงฮิตติดชาร์ทบิลบอร์ดมากมาย อาทิ One Last Cry,  Back at One, The Only One for Me, Anytime and Love of My Life เป็นต้น

ผลงานล่าสุดคืออัลบั้ม Genesis เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุด นับตั้งแต่เขาออกซิงเกิลมาให้แฟนเพลงได้เพลิดเพลินตลอด 25 ปี

นอกจากนี้ Genesis ยังได้เข้าชิง 2 รางวัล จาก NAACP Image Awards ในสาขาอัลบั้มยอดเยี่ยม และนักร้องชายยอดเยี่ยม ซึ่งจะมีการประกาศผลรางวัลในกลางเดือนมกราคม 2561

ส่วน โจอี้ อเล็กซานเดอร์ (Joey Alexander) หนุ่มน้อยนักเปียโนวัย 13 ปี ชาวอินโดนีเซีย เป็นอีกไฮไลท์ของงานที่มาโชว์ความเป็นอัจฉริยะการเล่นเปียโนฝีมือระดับโลก เขาเกิดที่บาหลี และเริ่มต้นเล่นเปียโนตั้งแต่ยังอายุเพียง 6 ขวบ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากแผ่นเสียงเพลงแนวแจ๊ซที่พ่อกับแม่ของเขาสะสมเอาไว้

 ต่อมาเขาได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่นิวยอร์ก เพื่อมุ่งมั่นกับการเล่นดนตรีอย่างเต็มตัว จนได้มีโอกาสร่วมเล่นดนตรีกับศิลปินชั้นยอดระดับโลกมากมาย

ทั้งนี้ ชื่อของ โจอี้ อเล็กซานเดอร์ เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างทันที เมื่อเขาได้ปรากฏตัวในรายการ 60 Minutes ของทางสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นนักดนตรีชาวอินโดนีเซียคนแรกที่อัลบัมติดอยู่ใน Billboard Top 200 โจอี้ เข้าสตูดิโออัดเสียงครั้งแรกในปี 2014 ด้วยวัย 11 ปี และวางแผงอัลบั้มกับค่าย Motema ในปี 2015 ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ในวงการดนตรีเมื่ออัลบั้มของเขาถูกเสนอเข้าชิง Grammy Awards 2016 ถึง 2 สาขาอีกด้วย 

และได้ฟัง โก้ Mr.Saxman ร่วมกับ The Sound of Siam & Pui Duangpon , Infinity และ Pathorn Srikaranonda de Sequeira  & The Jazzminions ที่มาร่วมสร้างเสียงดนตรีท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามเย็นสบายในอ้อมกอดของขุนเขา

สนุกประทับใจไม่รู้ลืม ขอบคุณสิงห์ปาร์ค และหนีกรุง คอนเน็ค ที่สนับสนุนทริปสนุกแสนประทับใจ