สนุกที่สุดกับทริป บ้านนาต้นจั่น สุโขทัย 2 วัน 1 คืน แค่หัวละ 500 บาท คุ้มสุดคุ้ม เมืองสวยครบเครื่อง
สุโขทัย มหานครอันรุ่งเรือง ดินแดนแห่งความสุข ความหลากหลายทางศิลปะทั้งงานหัตถศิลป์ หัตถกรรม พุทธศิลป์ สถาปัตยกรรมอันงดงามที่ยังทรงคุณค่าเป็นทั้งมรดกโลก และเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันสำคัญของเมืองไทย
ทริปนี้รศ.ดร.พรรณี สวนเพลง อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต พาไปชมแผนการวิจัยเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ของการท่องเที่ยววิถีไทยเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่นในกลุ่มเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม (สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร) ในกรณีศึกษาของบ้านนาต้นจั่น สุโขทัย
วันนี้เราจะไปทำชีวิตให้ดี๊ ดี วิถีบ้านทุ่ง บ้านนาต้นจั่น เรียนรู้ชุมชน นอนโฮมสเตย์ ปั่นจักรยานลัดเลาะ
ใครคนหนึ่งเคยบอกว่า ที่นี่มี “ ความใจดี ใจเย็น เป็นมิตร” นั่นก็คือ บ้านนาต้นจั่น ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย
เป็นอีกสถานที่มีวิถีธรรมชาติทั้งผู้คน สิ่งแวดล้อม อาหารการกิน วิถีเกษตร ทำนา ทำไร่ สวนผลไม้ เรียกได้ว่า หลบลี้จากเมือง หนีความวุ่นวายมาใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่วุ่นวายซับซ้อน
ชาวบ้านนาต้นจั่น เปิดบ้านรับนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังยึดถือค่านิยม และประเพณีที่ยังสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
สาวๆ ที่เป็นนักท่องเที่ยวแบบเที่ยวคนเดียว หรือ Solo Traveller หรือจะไปกับเพื่อนฝูง ครอบครัว สามารถท่องเที่ยวได้อย่างอุ่นใจ บ้านนาต้นจั่นมีของดีมากมายให้สัมผัส
ทั้งโฮมสเตย์ที่สะดวกสบาย
ทดลองเวิร์คช็อปผ้าหมักโคลน
ขี่จักรยานเล่น
ชิมข้าวเปิ๊บ
ก๋วยเตี๋ยวแบและหมี่พัน
แถมยังมีทีเด็ดที่น้ำพริก"ซอก"ไข่ (เอาไข่มาตำพอแหลกไม่ให้เละ)
ชมจุดชมวิวทะเลหมอกห้วยต้นไฮ
สัมผัสกับธรรมชาติใกล้ชิดแบบไร้สิ่งปรุงแต่ง ทำกิจกรรมกับเจ้าของบ้านเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน
บ้านนาต้นจั่นเป็นชุมชมดั้งเดิมอพยพมาจากเมืองเหนือ และเมืองลับแล ภาษาที่ใช้เป็นภาษาเหนือ หมู่บ้านนาต้นจั่นเป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีต้นจั่นขึ้นอยู่มากมาย จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านนาต้นจั่น
บ้านนาต้นจั่นสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากบนดอย ประชากรประกอบอาชีพทำนา ทำสวน ผลไม้ ปลูกกล้วย ลางสาด ทุเรียน ตามฤดูกาล อาชีพเสริมคือ อาชีพทอผ้า จักสาน ทำหัตถกรรมตอไม้ ชุมชนอยู่กันแบบพี่แบบน้อง เอื้ออาทรต่อกัน
หากจะนึกถึงคำว่าก๋วยเตี๋ยวบวกชื่อจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย และมีขายทั่วไป คงนึกถึงคำใดไม่เทียบคำว่า “ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย” แต่ที่บ้านนาต้นจั่นดียิ่งกว่า เพราะมีก๋วยเตี๋ยวอีกแบบเรียกว่า ข้าวเปิ๊บ
มาบ้านนาต้นจั่นทั้งที ต้องไปชม และชิมการทำอาหารถิ่น ข้าวเปิ๊บ หรือก๋วยเตี๋ยวพระร่วง อันเลืองชื่อ
เมื่อไปแวะที่ศูนย์การท่องเที่ยวบ้านนาต้นจั่น เลือกซื้อสินค้าจากผ้าหมักโคลน แล้วต้องลองชิมข้าวเปิ๊บยักษ์ ชามใหญ่โตมาก
หรือจะไปที่ร้านยายเครื่องก็ได้
เขามีชื่อเสียงโด่งดังข้ามจังหวัดทีเดียว ขายดีขนาดไหนซื้อบ้านไทยราคา 15 ล้านมาทำเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว
ข้าวเปิ๊บคือ ก๋วยเตี๋ยวชนิดหนึ่ง ที่มีกรรมวิธีการทำเส้นคล้ายคลึงกับข้าวเกรียบปากหม้อ โดยใช้ผ้าขาวบางขึงบนปากหม้อดินจนตึง ในหม้อดินต้มน้ำให้เดือด จากนั้นละเลงแป้งข้าวเจ้าลงบนปากหม้อ ไอน้ำเดือดที่พลุ่งขึ้นมาจะทำให้แป้งสุกอย่างรวดเร็ว จากนั้นใส่วุ้นเส้น ผักบุ้ง กะหล่ำปลี ถั่วงอก หรือผักอื่นๆ ตามชอบลงไปบนแผ่นแป้ง เสร็จสรรพแล้วตักใส่ชาม
เป็นที่มาของคำว่า “ข้าวเปิ๊บ” ซึ่ง “เปิ๊บ” เป็นภาษาถิ่นหมายถึง การพับไปพับมานั่นเอง นอกจากจะมีแป้งห่อไส้ผักแล้ว ยังมีไข่ไก่ที่หน้าตาเหมือนไข่ดาว แต่ใช้วิธีนึ่งบนปากหม้อดินจนสุกน่ากินใส่รวมในถ้วยพร้อมกับแป้งที่ห่อผัก ตามด้วยหมูแดงหรือหมูสับ ราดน้ำซุปกระดูกหมูร้อนๆ
ชิมก๋วยเตี๋ยวแบ ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้งที่ใช้วิธีนำเส้นเล็กลงไปนึ่งพร้อมกับผักบุ้ง ถั่วงอก และผักต่างๆ จากนั้นนำขึ้นมาโรยหน้าด้วยถั่วบด และเครื่องปรุงต่างๆ มีหมูแดง และกากหมูวางมาข้างเคียง วางแบลงบนใบตอง
ปิดท้ายที่ตลาดสามแคร่ ในศูนย์การท่องเที่ยวบ้านนาต้นจั่น
ง่ายๆ เลยที่มาของชื่อคือมีแคร่วางอยู่ 3 แคร่ ขายของพื้นบ้านเล็กๆ น้อยๆ พวกผัก ผลไม้ และอาหารต่างๆ เดินเที่ยวให้สุขใจ ในบ้านนาต้นจั่น
ไล่เรียงแผนการท่องเที่ยวอีกที เริ่มที่การนักท่องเที่ยวเข้าที่พักในช่วงบ่ายๆ จากนั้น 16.00 น.ปั่นจักรยานชมทุ่งชมพระอาทิตย์ตก
หรือจะนั่งรถอีแต๊กไปก็ได้
ชมทุ่งนาสวยๆ
18.30 น. รับประทานอาหารเย็น
19.00 น.การบายศรีสู่ขวัญ ชมการแสดงพื้นเมือง
นอนโฮมสเตย์ให้สบายใจ
เช้าอีกวันจะตื่นตี 4 ไปชมทะเลหมอกหรือวิวพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้ หรือจะตักบาตรหน้าบ้านก็ได้
07.30 น. รัปประทานอาหารเช้าแบบจัดเต็มมาก
08.30 น. ปั่นจักรยานหรือนั่งรถอีแต๊กชมวิธีการทอผ้าใต้ถุนบ้าน
ชมวิธีการทำตุ๊กตาบาร์โหน (บ้านตาวงศ์)
ชมการทำผ้าหมักโคลน
ผลิตภัณฑ์จากผ้าหมักโคลน คุณสมบัติคือใส่หน้าร้อนจะเย็น ใส่หน้าหนาวจะอุ่น
11.30 น. ชมและทดลองการทำข้าวเปิ๊ปอาหารถิ่น
อัตราค่าบริการ คนละ 500 บาทเมื่อมา 3 คนขึ้นไป ,1-2 ท่านคิดท่านล่ะ 600 บาท/คน , เด็กอายุต่ำกว่า5ขวบคิด250บาท ,ชาวต่างชาติ 700 บาท /คน ราคานี้รวมอาหารเย็น/เช้า/นอนพักหนึ่งคืน กิจกรรมชมเที่ยวในหมู่บ้านเจ้าของบ้านพาชมเที่ยว
หากลูกค้าท่านใดสนใจขึ้นจุดชมวิวชมทะเลหมอกพระอาทิตย์ขึ้น เวลา 04.30น. ไกด์จะมารับยังที่พัก ค่าบริการ450/หลัง ระยะทางนั่งรถ3.5ก ม.ต่อด้วยเดินเท้าอีก850เมตร จิบกาแฟในกระบอกไม้ไผ่
ไปเที่ยวกันนะคะ
วางมัดจำ 1,000 บาท ชำระเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 4310472073 พร้อมเพย์ 0884957738 ชื่อ เกตุทิพย์ วุฒิสาร โทร 088-4957738
ส่งหลักฐานการโอนมายังข้อความของเพจโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น (ถ้าคุยกันช่วงทางไหนให้ส่งสลิปมาช่องทางนั้น)!! หลังจากนั้นจะแจ้งชื่อเจ้าของบ้านพร้อมเบอร์ติดต่อเจ้าของบ้านภายหลังการชำระเงิน
ขี่จักรยานให้เช่าคันล่ะ30บาท ลักษณะบ้านที่เจ้าของบ้านแบ่งห้องให้ลูกค้าอยู่ด้วย เจ้าของบ้านพาชมพาเที่ยวเรียนรู้วิถี บ้านมี23หลัง เวียนตามคิว
หมายเหตุ #งดใช้เสียงหลัง 3 ทุ่ม !!!
* และหากยกเลิก การเข้าพักค่ามัดจำจะถือเป็นสิทธ์ของเจ้าของบ้านที่จะไมคืนมัดจำ) *แต่หากเลื่อน การจองระยะเวลาจะสิ้นสุดเมื่อครบ 3 เดือน ยังใช้สิทธ์การจองนี้ได้
*สนใจขึ้นจุดชมวิวแจ้งเจ้าของบ้านได้ตอนเข้าพัก และเตรียมรองเท้า ที่เหมาะสมในการเดินขึ้นเขาด้วย
ขอบคุณที่เชื้อเชิญ Travelista ไปในทริปนี้
พบกันใหม่ในรีวิวเรื่องถัดไปนะคะ