เกาะช้างเกาะใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทย มีอะไรมากมายอย่างคิดไม่ถึง คุณอาจนั่งเล่นชิลด์ๆ ริมหาดทราย ว่ายน้ำในทะเล พักผ่อนในรีสอร์ทสวยๆ ชิมอาหารทะเลให้อร่อย เที่ยวน้ำตกหรือดำน้ำ ที่นี่มีอะไรให้ทำเยอะ เรามาลองดู 10 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเกาะช้างกัน
1. ล่องเรือมาด บ้านสลักคอก
พื้นที่ที่นับได้ว่าป่าโกงกางอุดมสมบูรณ์มากในเกาะช้าง ต้องยกให้ที่ อ่าวสลักคอก อ่าวนี้อยู่ในโซนเกาะช้างใต้ ที่อ่าวสลักคอกจะมีผืนป่าโกงกางที่หนาแน่นมาก เราสามารถมองเห็นความเขียวขจีของป่าโกงกางและเรียนรู้ระบบนิเวศน์ชายเลนไปด้วย
แต่ไฮไลท์ที่สุดของที่นี่คือ การพายเรือคายัค และนั่งเรือมาดชมวิวที่อ่าวสลักคอก โปรแกรมนี้เราสามารถเลือกชิลล์ได้ทั้งแบบออกแรงพายเรือคายัคเอง หรือ จะเลือกนั่งสบายๆ มีคนพายเรือมาดให้เราได้นั่งชมวิว
วันนี้ขอเลือกนั่งชมวิวไปกับเรือมาด โดยมีคนแจวให้ เขาเรียกอีกอย่างว่า กอนโดล่าเมืองไทย เรือจะแล่นอย่างเนิบช้าออกสู่ปากอ่าวสลักคอก ให้บรรยากาศชิลด์ๆ ทำให้เราได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงาม
บริการ เรือคายัค เรือมาด เวลาทำการ 8.00 -16.30 ติดต่อ ผู้จัดการเอ 087-748-9497, 083-115-5677
2. ชมวิวสวยๆ ของเกาะช้าง
แน่นอนว่ามาเกาะช้าง เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากเกาะภูเก็ตทั้งที ต้องขึ้นไปตามเนินยอดเขาต่างๆ ที่ยังมีธรรมชาติเขียวของป่า ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเขาสูงมีผาหินสลับซับซ้อน
ยอดเขาที่สูงที่สุด ได้แก่ เขาสลักเพชร มีความสูง 744 เมตร สภาพป่าโดยทั่วไปอุดมสมบูรณ์ ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขา อันเป็นบ่อเกิดของต้นน้ำลำธาร ทำให้มีน้ำตกหลายแห่งบนเกาะ ชายหาด และปะการังที่สวยงามอยู่ทางด้านตะวันตกของตัวเกาะ
3. กินซีฟู้ดแสนอร่อย
มาถึงเกาะช้าง ต้องไม่พลาดชิมอาหารทะเลสดๆ ถ้าไม่หาอาหารทะเลสดๆ ทานกันแล้วล่ะก็ ก็จะเหมือนไม่ได้มาเที่ยวทะเล และที่เกาะช้างก็มีท่าเทียบเรือหลักๆ อยู่หลายแห่ง เพราะพื้นฐานอาชีพของชาวบ้านที่นี่คือ การประกอบอาชีพประมง
นอกจากอาหารหรูที่ราคาสูงสักนิด แต่คุณภาพดีตามรีสอร์ทต่างๆ แล้ว สามารถเดินหาทานตามร้านอาหารทั่วไปตามหน้าชายหาดช่วงเย็นๆ ได้ โดยเฉพาะท่าเทียบเรือบางเบ้า ทางเกาะช้างใต้ด้านท้ายเกาะ ที่นี่มีร้านอาหารทะเลขึ้นชื่ออยู่หลายร้าน
4.เดินเที่ยวน้ำตกธารมะยม
น้ำตกธารมะยม" อีกหนึ่งน้ำตกสวยที่ตั้งอยู่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เป็นน้ำตกขนาดกลาง มี 4 ชั้น ลักษณะเป็นธารน้ำไหลผ่านมาเป็นชั้นๆ ตามร่องหินแกรนิตสีดำ มีหน้าผาสูงชันจนเกือบตั้งฉาก
บริเวณโดยรอบเป็นป่าดงดิบ อากาศร่มเย็นสบาย เหมาะแก่การตั้งแคมป์ และเล่นน้ำตก ที่สำคัญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 6 เคยเสด็จประพาสมายังน้ำตกนี้ โดยมีพระปรมาภิไธยย่อ จปร. และ วปร. สลักอยู่ที่หน้าผาน้ำตกชั้นบน นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงยังมีหมู่บ้านชาวประมงที่มีสภาพป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์
5.ชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมไชยเชษฐ์
จุดเด่นของแหลมไชยเชษฐ์ เป็นแหลมหินที่เหมาะต่อการนั่งชมวิวทิวทัศน์ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า หรือหากอยากตกปลาเพื่อความเพลิดเพลินเป็นการพักผ่อนแบบสบายๆ ก็ได้ บริเวณแหลมหินไม่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำเท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นโขดหินส่วน ใหญ่และมีคลื่นแรง แต่บรรยากาศพระอาทิตย์ตกน้ำที่แหลมไชยเชษฐ์สวยงามยิ่งนัก เหมาะแก่การพักผ่อน
6. เดินเล่นชิลด์ๆ ตามหาดทราย
มีหาดทรายสวยๆ ให้เดินหลายแงบนเกาะช้าง เช่น หาดคลองพร้าว หาดสวยอีกแห่งหนึ่งทางด้านตะวันตกของเกาะช้าง อยู่ถัดมาจากหาดทรายขาวประมาณ 4 กิโลเมตร ลักษณะของหาดที่โค้งเริ่มต้นจากแหลมไชยเชษฐ์ยาวไปจนถึงหาดไก่แบ้ เชิญชวนให้เดินเล่นพร้อมคู่รัก
และหากใครที่หลงรักน้ำทะเล กับทรายเม็ดละเอียด จะต้องไม่พลาดหาดทรายขาวของเกาะช้าง นี่คือหาดทรายขาว
7. ชมวิว 4 เกาะ ณ จุดชมวิวไก่แบ้
จุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามอีกจุดหนึ่ง “จุดชมวิวหาดไก่แบ้” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก ที่นี่มีสัญลักษณ์คำว่า TRAT และมีตู้ไปรษณีย์สีแดงขนาดใหญ่
จากจุดนี้เราจะมองเห็นวิวแบบพาโนรามา และมองเห็นเกาะ 4 เกาะคือ เกาะมันนอก เกาะมันใน เกาะปลี และเกาะหยวก
8. ชอปปิงสินค้าพื้นเมือง
เกาะช้างมีสินค้าให้ช้อปหลากหลาย เราจะเลือกซื้อสินค้าประเภทเสื้อยืด หอยที่น่ารักๆ ที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับ งานแฮนด์เมดต่างๆ การนำกะลามะพร้าวมาดัดแปลงเป็นตุ๊กตาและอื่นๆ มากมาย
9. นั่งเฟอร์รี่นี่แหละ....ได้บรรยากาศ
จะไปหรือกลับสะดวกสุด ก็ต้องนั่งเฟอร์รี่ โดยเฉพาะท่าเรืออ่าวธรรมชาติหรือท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานสากล ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ให้วิ่งประจำทาง ลักษณะคล้ายเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปเกาะสมุย ซึ่งจะใช้ เรือเฟอร์รี่ ขนาดใหญ่ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 300 คน และรถยนต์ ได้อีกประมาณ 40 คัน พร้อมทั้งมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยครบครัน สะดวกสบาย
ปัจจุบัน ท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง มีการปรับปรุงตัวเรือให้มีความทันสมัยมากขึ้น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น มีน้ำ และอาหารจำหน่ายบนเรือ ห้องน้ำปรับเปลี่ยนให้มีความสะอาดมากขึ้น และสามารถแล่นได้เร็วขึ้นใช้เวลาเดินทางจากฝั่งตราดถึงเกาะช้างราว 40 นาที มีเรือออกทุกๆ 45 นาที จากท่าเรือฝั่ง จ.ตราด เที่ยวแรก เวลา 06:30 น. เที่ยวสุดท้าย 19:00 น.
จากเกาะช้าง เที่ยวแรก เวลา 07:00 น. เที่ยวสุดท้าย 19:00 น. อัตราค่าโดยสาร รถยนต์ 4 ล้อ เที่ยวเดียว 100 บาท คนขับรถ ผู้โดยสาร เที่ยวเดียว 80 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 039-538-288 ถึง 9
10. นั่งบางกอก แอร์เวย์ส แป๊บเดียวถึง
การเดินทางโดยเครื่องบินจะไม่มีบริการเครื่องบินไปเกาะช้างโดยตรง แต่จะใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปสนามบินตราด โดยมีสายการบินเพียงสายการบินเดียว ที่ให้บริการคือ สายการบินบางกอก แอร์เวย์ โดยใช้เส้นทางการบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ มายังสนามบิน ตราด (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที)
ราคาตั๋ว ของเครื่องบินโดยสารจะอยู่ประมาณท่านละ 3,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงวันเดินทาง และโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในแต่ละเดือน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายการบินบางกอก แอร์เวย์ โทรศัพท์ 02 -265-5555
ทริปนี้ Travelista นักเดินทาง ร่วมทริปไปกับชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว (ช.ส.ท.) ซึ่งเป็นสังกัดที่ร่วมเป็นทั้งกรรมการและสมาชิกอยู่ด้วย
ขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ส่วนกลางจากฝ่ายสื่อสารการตลาด และททท.สำนักงานตราด
และขอบคุณองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)
ขอบคุณทั้ง 2 หน่วยงานที่สนับสนุนการเดินทางในทริปที่น่าประทับใจนี้ ติดตามการเดินทางท่องเที่ยวได้ที่ Facebook Fanpage Travelista นักเดินทาง