เที่ยวนครปฐมไปนครชัยศรีด้วยรถไฟในวันเดียว ได้มีโอกาสแวะชมวัดสวยๆ ถึง 4 วัดค่ะ แล้วไปเดินชมเทศกาล คาเฟ่ กินเป็ด ปลา กุ้ง นครปฐม และของดี ของเด่น นครปฐม เที่ยวแบบเชื่อมโยงรถไฟ-เรือ-รถราง นครปฐมเป็นเมืองพหุวัฒนธรรม อาหารอร่อยค่ะ

ในทริปออกเดินทางโดยรถไฟธรรมดาขบวน 261 มายังสถานีวัดงิ้วราย ค่ารถไฟแค่คนละ 10 บาทค่ะ ถูกมากๆ  ไปกลับคือ 20 บาท รถไฟชั้น 3 นี่คิดค่าบริการเพื่อประชาชนจริงๆเลย แล้วไปท่องเที่ยวในหลายวัดค่ะ  ไปกลับคือ 20 บาท เรามากับคณะ 45 คนคือไปแบบเหมาตู้ขาไป 450 บาท และขากลับอีก 450 บาท รวมเป็น 900 บาทเท่านั้นเองค่ะ

วัดงิ้วราย สันนิษฐานว่าเป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย กราบหลวงพ่อโสธร  และรอยพระพุทธบาท สมัยรัชกาลที่ 4 พระประธานในอุโบสถได้จำลองมาจากวัดโสธรวราราม ฉะเชิงเทรา

จากนั้นนั่งรถรางท่องเที่ยววัดใหม่สุปดิษฐาราม สิ่งโดดเด่นของวัดคือวิหารสีทองและพระสิวลีองค์ใหญ่ ภายในวิหารยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย เช่น หลวงปู่เป้า หลวงปู่ผูก เกจิอาจารย์ชื่อดังและเป็นพระสงฆ์ที่สร้างโบสถ์ อุโบสถมีสีเหลืองทองอร่ามโดดเด่น มองเห็นได้ในระยะไกล  ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบล้านนาอย่างลงตัว และสวยสดงดงาม มีพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ขอพรเสริมดวง เสริมบารมี กราบไหว้บูชาพระราหูเพื่อเสริมดวงชะตา มีพระนอนปางเสวยสุขขนาดความยาว 25 เมตร

วัดกลางบางแก้ว  ชมสถาปัตยกรรมและศิลปะงดงามมาก ทั้งวิหาร อุโบสถ และหอไตร ที่ตกทอดมาจากสถาปัตยกรรมในสมัยกรุงศรีอยุธยาแต่ดั้งเดิม ชมพิพิธภัณฑ์พระพุทธวิถีนายก ซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุ เครื่องรางของขลัง พระคัมภีร์ และตำราโบราณต่างๆ ไหว้พระเจ้าสัวองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตัก 2.59 เมตร สูง 3.99 เมตร ให้โชคลาภ ซึ่งพระพุทธวิถีนายก หรือหลวงปู่บุญ ขนฺธโชติอดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว วัตถุมงคลของท่านที่นับว่าขึ้นชื่อที่สุดคือ เหรียญเจ้าสัว

วัดกลางคูเวียง วัดนี้มีชื่อเสียงด้านยาต้มหรือยาหม้อ เช่น ยาแก้ระดูทับไข้ ยาแก้ไข้จับสั่น ยาแก้ไข้จับให้ร้อนและเย็น ยาบำรุงเลือด ยาบำรุงธาตุ จนเขาทำเป็นหม้อยายักษ์เป็นแลนด์มาร์คถ่ายรูป วัดยังมีลูกนิมิต 100 ลูก นักท่องเที่ยวมักมาทำบุญปิดทองลูกนิมิต ยังมีเบี้ยแก้ยักษ์ เป็นเครื่องรางที่ขึ้นชื่อของวัด ในบริเวณวัดมีตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง

ลงเรือล่องชมบรรยากาศยามเย็นสองฝั่งแม่น้ำนครชัยศรี ผ่านสะพานเสาวภา วัดสัมปทวน  วัดสัมปตาด วัดกกตาล และโรงเจเปาเก็งเต็ง

จากนั้นได้มีโอกาสเข้าร่วมงานเทศกาลคาเฟ่ กินเป็ด ปลา กุ้ง นครปฐม วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ณ วัดงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

งานนี้เขาจัดเพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงอาหารของจังหวัดนครปฐม เมืองแห่งของอร่อยและคาเฟ่วิวสวยใกล้กรุงฯ

งานนี้จัดภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) และบริษัท เมืองไทย ครีเอทีฟ แอนด์ ทัวร์ จำกัด

ในงานได้มีการจัดรวมร้านคาเฟ่สุดชิลล์ อาหารนานาชนิดที่ขึ้นชื่อ เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่หลากหลาย และนำผลิตภัณฑ์ของดีท้องถิ่นจากชุมชนมาจำหน่าย พร้อมการล่องเรือชมวิถีชีวิตริมน้ำ สะพานเสาวภา สะพานประวัติศาสตร์สำคัญ และนั่งรถรางนำเที่ยวในพื้นที่

ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์ดีเด่น ของจังหวัดนครปฐม มากกว่า 40 บูธ อาทิเป็ดชื่อดังจากร้านสมทรงเป็ดย่าง ร้านหมี่กรอบกระเทย ผลิตภัณฑ์สุกรแปรรูปจากฮ้งซ้งเฮียง ปลาสดแดดเดียวและกุ้งจากแหล่งผลิตดอนแฉลบ กำแพงแสน เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน (พิมชนก) ร้านคาเฟ่ชื่อดังต่างๆในพื้นที่ รวมถึงสินค้าโอทอปจากชุมชนต่างๆ

ก่อนกลับแวะชิมหนึ่งในร้านอาหารที่ไม่ควรพลาดเช่น ครัวงิ้วราย โดยมีคุณยายราศรี ที่เป็นแม่ครัวที่มีประสบการณ์ยาวนาน ปรุงอาหารท้องถิ่นรสชาติเข้มข้น ใช้วัตถุดิบจากพื้นที่ เช่น แกงส้มไหลชวา (ทำจากผักตบชวา) ปลดแรดนครชัยศรีและย้ำส้มโอ ปลาดุกคั่วเกลือ พล่ากุ้ง ผัดชะอมไข่วุ้นเส้น

เดินทางกลับโดยรถไฟขบวน 262 เป็นการเที่ยวนครปฐมสนุกในวันเดียว

คุณกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การจัดงานนี้เพื่อกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน ส่งเสริมให้มีกิจกรรมต่างๆในพื้นที่ ตลอดจนมีการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ร่วมด้วย สร้างสันทนาการ และนอกจากอาหารอร่อยแล้ว ยังเป็นอาหารใจจากความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว ได้ชมความงามของแม่น้ำนครชัยศรี และปัจจุบันก็มีการจัดกิจกรรมพายเรือแคนนู ได้ไหว้พระวัดต่างๆ สร้างประสบการณ์ใหม่ๆในการท่องเที่ยว

คุณกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) กล่าวว่า มีการนำคณะนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพเข้าชมงาน เพื่อกระจายรายได้ลงพื้นที่ และยังสนับสนุนการท่องเที่ยวเชื่อมโยงรถ-ล้อ-ราง-เรือ คือเที่ยวโดยรถไฟ รถราง เรือ และการใช้รถสองแถวในท้องถิ่น ซึ่งนครชัยศรีเป็นแหล่งพหุวัฒนธรรม มีชุมชนชาวจีน เขมร ลาว ในพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวทางสายน้ำ เมืองแห่งอาหารการกิน เมืองแห่งมรดกทางภูมิปัญญา และพยายามใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อต่อยอดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอีกด้วย