“ชัยภูมิ” จังหวัดที่ไม่ใช่มีแค่ทุ่งดอกกระเจียว หากแต่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีเสน่ห์หลากหลาย เที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมีคำขวัญประจำจังหวัดชัยภูมิว่า "กำเนิดแม่น้ำชี สดุดีพญาแลผู้กล้า ปรางค์กู่เป็นสง่า ล้ำค่าพระธาตุชัยภูมิ สมบูรณ์ป่าเขาสรรพสัตว์ เด่นชัดลายผ้าไหม”
หากอยากสัมผัสชัยภูมิให้ได้อย่างหลากหลาย ขอแนะนำว่าควรไปเที่ยวและพักไม่ต่ำกว่า 3 วัน 2 คืน ซึ่งที่จริงอยู่ได้ยาวเป็นอาทิตย์ด้วยซ้ำ แต่หากมีเวลาไม่มากนักขอแนะนำ เส้นทางไฮไลท์สู่ทุ่งกะมังและบึงละหาน
วันนี้ขอแนะนำ 9 ที่เที่ยว และ 4 ที่กิน (ร้านอาหาร) อันถือว่าไม่ควรพลาดของชัยภูมิ
สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 9 แห่งได้แก่
1 ทุ่งกะมัง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว มีเนื้อที่ราว 5,000 ไร่ เป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติที่อยู่บนเนินสูงต่ำสลับกันไป มีธารน้ำหลายสายไหลผ่าน พื้นที่รอบๆ เป็นป่าดิบเขาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และแหล่งส่องสัตว์ เดินป่า ที่มีความสวยงามของวิถีชีวิตธรรมชาติ
สามารถใกล้ชิดสัตว์ป่า อาทิ เก้ง กวาง เนื้อทราย เป็นจำนวนมาก รวมไปถึง นกหลากหลายชนิด ทั้งนกยูง ไก่ฟ้า นกขุนแผน นกหัวขวาน เป็นต้น
ที่นี่ยังมีทางเดินศึกษาธรรมชาติ และมีสกายวอล์คให้เดินเล่นชมความงามของผืนป่าอีกด้วย
โดดเด่นมากคือต้นเหมือด ต้นไม้ต้นเดียวที่ยืนเดียวดายกลางทุ่งหญ้าในทุ่งกะมัง กลายเป็นแลนด์มาร์ค
และจุดถ่ายรูปที่ใครๆ ต้องไปเยือน โดยเฉพาะสาย Content ถ่ายรูป เพราะเที่ยวเหมือนไทยเหมือนไปเกาหลี
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดูทางช้างเผือก กับพื้นที่ได้รับการรับรองว่าเป็นเขตท้องฟ้ามืด DARK SKY หนึ่งใน 3 แห่ง ของจังหวัดชัยภูมิ
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อพื้นที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในประเทศไทย ในโครงการ Amazing Dark Sky in Thailand
โดย Dark Sky Park หรือเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จะรักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสมด้วยวิธีการใช้แสงสว่างอย่างระมัดระวังโดยไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางแสง ทั้งยังไม่รบกวนสัตว์ป่าต่างๆ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเชิงดาราศาสตร์อีกด้วย โดยมีทั้งหมด 5 แห่งในประเทศไทยคือ
1 อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เชียงใหม่
2 อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุบลราชธานี
3 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ชัยภูมิ
4 อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ชัยภูมิ
5 อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ชัยภูมิ
นั่งดูดาว สุดโรแมนติก หรือหากเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ก็จะเห็นดวงจันทร์กลมโต สว่างมากๆ
ที่พักของที่นี่ก็มีโซนก่อสร้างใหม่ สะดวกสบายมาก แต่ไฟฟ้าก็จะเปิดในช่วง 18.00 - 21.00 น.เท่านั้น เนื่องจากไม่ต้องการรบกวนสัตว์ และจะไม่มีทีวี แอร์ พัดลมใดๆ หากแต่นักท่องเที่ยวก็พักผ่อนได้อย่างสบาย ลมพัดเย็น และไม่มีใครต้องการละเมิดกฎหรือรบกวนวิถีสัตว์ป่าที่จะออกหากินยามค่ำคืนแต่อย่างใด แนะนำว่าเอาไฟฉายติดไปด้วย เผื่อลุกไปเข้าห้องน้ำ (ซึ่งก็อยู่ในห้องพักค่ะ)
ในยามเย็นหรือยามเช้า ก็มีห้องอาหารของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อาจจะไม่ใช่อาหารที่หรูหราอะไรนัก แต่ก็อร่อยทั้งผัดกะเพรา ข้าวผัดไข่ดาว แกงจืด ผัดผัก อาหารง่ายๆแต่ทรงคุณค่าในยามหิว
2 ทุ่งบัวแดง บึงละหาน ลงเรือชมบรรยากาศได้ทั้งยามเย็นและยามเช้า บึงละหานนับเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติมีเนื้อที่กว้างใหญ่ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ 18,181 ไร่ หรือ 29.08 ตารางกิโลเมตร
เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และยังมีระบบนิเวศที่ดี บึงละหานจึงได้รับเลือกให้เข้าอยู่ในทะเบียนรายนามพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติของไทย
ทุ่งดอกบัวแดง บึงละหาน เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของชัยภูมิที่ยังไม่มีคนรู้จักมากนัก เรียกได้ว่าเป็นมุมลับๆ แต่สวยงามมากๆ ช่วงนี้ดอกบัวแดงก็กำลังบานสะพรั่งสวยงาม
จุดขึ้นเรือจะอยู่ตรงข้ามวัดโนนหัวช้างรัตนาราม ต.บ้านกอก อ.จัตุรัส มีสะพานไม้ทุ่งบัวแดง ทอดยาวไปในบึงละหาน ซึ่งชาวบ้านร่วมกันสร้างโดยใช้ไม้หมอนรถไฟนำมาสร้าง ค่าบริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นเรือก็ตกแค่คนละ 100 บาท เรือแต่ละลำนั่งได้ 2-3 คน คนพายเรือเขาจะเป็นไกด์บอกเล่าเรื่องราวของบึงละหานเป็นอย่างดี
ที่บึงละหานมีระบบนิเวศที่มีความสภาพความสมบูรณ์อยู่มาก ทำให้มีนกหลากหลายสายพันธุ์เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ซึ่งพบอย่างน้อย 56 ชนิด ได้แก่ นกยางโทนน้อย นกยางโทนใหญ่ นกยางเปีย นกยางไฟธรรมดา นกยางไฟหัว นกแซงแซวหางปลา นกกระสานวล นกกระสาแดง นกกระแตหาง นกนางแอ่นทุ่งใหญ่ เป็ดแดง เป็นต้น เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงละหาน จึงเป็นการอนุรักษ์นกเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
ทริปนี้เรามีคุณอภิรัฐ ทัดกลาง นักวิชาการป่าไม้ปฎิบัติการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงละหานร่วมพาชมพื้นที่
เราได้นั่งเรือชมบึงละหานทั้งยามเย็นและยามเช้าในอีกวัน เห็นทั้งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าและพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งมีความงามต่างกันไป เห็นนกบินกลับรังในยามเย็น แล้วมาเห็นดอกบัวแดงบานในยามเช้า เป็นสีสันการท่องเที่ยวที่ช่างมีเสน่ห์ประทับใจ
มื้อเช้าของเราเป็นอาหารจากท้องถิ่น ที่มีทั้งปลาทอด ข้าวเหนียว หมกปลา ส้มตำ อร่อยตามวิถีชุมชน
3 มอหินขาว เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ถือว่ามีความงดงามทางธรรมชาติไม่แพ้ทุ่งดอกกระเจียวงาม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ไฮไลท์คือก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน จนเรียกที่นี่ว่า สโตนเฮนจ์เมืองไทย เสาหิน 5 ต้น เป็นหินที่มีความสูง ประมาณ 12 เมตร จำนวนหนึ่งใน 5 มีต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ขนาด 22 คนโอบเลยทีเดียว
4 พระมหาธาตุรัชมงคลเจดีย์สิริชัยภูมิ หรือพระธาตุชัยภูมิ ประดิษฐานอยู่ ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมอรุณธรรมสถาน บนเนินสูงของภูแลนคาเป็นที่บรรจุพระธาตุ
มีอาคารและสิ่งก่อสร้างที่มีศิลปทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มองเห็นวิวแบบพาโนรามารอบทิศที่สดชื่นสบายตา
ในปี 2566 นี้ ททท. ยังจับมือจังหวัดชัยภูมิ จัดพิธีหาบน้ำเขื่อนลำปะทาว ฮดสรงพระธาตุชัยภูมิ ประเพณีสำคัญที่จะจัดขึ้นทุกปีของจังหวัดชัยภูมิอีกด้วย
5 วัดถาวรชัยศิริ หรือวัดด้อแด้ เดิมชื่อว่า วัดด้อแด้สายธารธรรม คำว่าด้อแด้ เป็นภาษาถิ่นคอนสารแปลว่าสูง เนื่องจากทางเข้าหมู่บ้านมีจะต้นเสลี่ยงใหญ่และมีผึ้งไปอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากแต่ไม่มีใครสามารถปีนเอาผึ้งได้เพราะต้นเสลี่ยงสูงมากซึ่งชาวบ้านจะพูดว่าสูงด้อแด้
ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐาน "พระใหญ่พรชัยมงคล ศากยมุนีโลกนาท" รวมทั้งมีท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 รอบอุโบสถ ส่วนกำแพงแก้วรอบอุโบสถประดับด้วยเปลือกหอยที่ปราณีต สวยงาม และมีรูปปั้นพญานาค ทั้ง 4 ตระกูล ซึ่งมีผู้เลื่อมใสศรัทธา ไปสักการะบูชาขอพร เป็นจำนวนมาก
ทั้งยังมีโซนก่อสร้างคล้ายอารยธรรมขอมโบราณ และมีสระน้ำคล้ายบาราย ที่มีความงดงามชวนพิศวงเป็นอย่างยิ่ง
6 สวนรุกขชาติน้ำผุดทัพลาว ลักษณะน้ำผุดทัพลาว เป็นลำธารที่ไหลจากตาน้ำที่เรียกน้ำผุดมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นร่มเย็น พื้นที่กว้างขวาง มีแอ่งน้ำที่เหมาะการแก่การพักผ่อนและเล่นน้ำหลายแห่ง มีน้ำไหลตลอดปี
ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับน้ำผุด ชาวบ้านได้พบโครงกระดูกมนุษย์ 4-5 โครง พร้อมสิ่งของเครื่องใช้ของคนในอดีต ที่คาดว่าน่าจะเป็นทหารลาวที่เคยมาตั้งพักกองทัพบริเวณนี้ จากคำบอกเล่าของผู้สูงอายุสืบต่อกัน และการพบโครงกระดูกและสิ่งของเครื่องใช้ จึงคาดว่าน้ำผุดแห่งนี้ในอดีตมีคนลาวมาปลูกที่อยู่อาศัย หรือมีทหารกองทัพลาวเดินทัพผ่านมาพบ และใช้เป็นที่พักกองทัพเพื่อสะสมเสบียงก่อนจะเคลื่อนทัพผ่านไป คนในอดีตจนถึงปัจจุบันจึงพากันเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า น้ำผุดทัพลาว
7 ชุมชนบ้านดอนละนาม อีกชุมชนที่เคียงคู่กับบึงละหาน และสร้างผลิตภัณฑ์โอท็อปอันมีชื่อเสียงของ อ.จัตุรัส โดยคุณป้าประนอม นามนภาวรรณ สาธิตการทำผลิตภัณฑ์ปลาแปรรูปต่างๆ
ทั้งทอดมันปลากราย ปลาส้มไร้ก้าง ปาล้มห่อ และปลาแปรรูปต่างๆ ชาวบ้านที่นี่มีรายได้ดีเลยทีเดียว จากการทำวิถีประมงและอาหารจากท้องถิ่น
8 เยี่ยมชมวิถีชีวิตการทำเกลือสินเธาว์โบราณ โดยการขูดเอาส่าเกลือจากพื้นดินมาหมักกรองเทน้ำเกลือไปต้มจนกลายเป็นเกลือบริสุทธิ์ ณ ชุมชนบ้านมะเกลือ
ซึ่งการที่ชั้นดินของที่นี่มีเกลือ นับเป็นทรัพย์ในดิน และสร้างรายได้ให้ชุมชน
9 จุดชมวิวปางม่วง หรือจุดชมวิวทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ตั้งอยู่ก่อนเข้าด่านเก็บเงินของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถือเป็นจุดชมวิวที่งดงามเห็นทิวทัศน์ของป่าอันเขียวขจี รวมถึงบางวันก็จะได้เห็นทะเลหมอก ทิวทัศน์ที่เห็นเบื้องหน้าประกอบไปด้วยเทือกเขาน้อย ใหญ่กว้างไกลสุดสายตา
ภูเขาสูงยอดตัดที่สูงกว่าลูกอื่นๆ นั้น คือ ภูผาจิต ถัดมาทางขวาตรงที่เห็นเป็นร่องเขา สุดปลายสายตาคือ ภูกระดึง
ณ จุดนี้เราจะมองเห็นลักษณะภูเขาแบบเควสตา (รูปอีโต้) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของขอบที่ราบสูงโคราช โดยเขาที่มีรูปทรงด้านข้างแบบเขาอีโต้ (cleaver knife) หรือที่เรียกว่าเควสตา (Cuesta) มีลักษณะคือมีด้านผาชันด้านหนึ่ง และด้านลาดอีกด้านหนึ่ง ทอดตัวออกไปทางด้านข้างต่อเนื่องตลอดขอบที่ราบสูงโคราช และตลอดแนวภูพาน รวมความยาวราว 1,740 กิโลเมตร
ชัยภูมิยังเป็นดินแดนแห่งการกิน มีอาหารพื้นถิ่นหลากหลาย ให้นั่งกินลม ชมวิว อาหารอร่อย
ขอแนะนำ 4 ร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด ได้แก่
1 สวนเห็ด ชัยภูมิปาร์ค ตั้งอยู่ทีอำเภอจัตุรัส หรือเมืองสี่มุม ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นด่านแรก หากมาจากนครราชสีมา ที่นี่มีเมนูเห็ดสดจากฟาร์ม ลงจานพร้อมเสิร์ฟ
เป็นร้านอาหารแนวธรรมชาติบ้านๆ เป็นร้านแบบเปิดไม่ติดแอร์ แต่อาหารอร่อยอย่าบอกใคร เช่น แหนมเห็ด ไส้อั่ว ต้มยำปลา ฯลฯ
2 ร้านระเบียงไร่ระเบียงนา ท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่งนาเขียวขจี ให้นั่งรับลมเย็นๆ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เมนูปลาสดๆ เลิศรสจากท้องถิ่นที่ถูกรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน
เช่น ปลาทอดสองใจ ปลาทอดสมุนไพรสีเหลืองทองกรอบราดพริก ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน ที่หอมพริกแกงและกะทิ เมนูรสแซ่บอย่างตำถาดที่เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงแบบจัดเต็ม หรือเมนูต้มไว้ซดร้อนๆ อย่างแกงเห็ดผักหวานไข่มดแดง อาหารประจำฤดูกาล
นั่งชิลรับลมเย็นสบายๆ พร้อมดนตรีสดให้เพลิดเพลิน พร้อมที่พักรองรับอย่างสะดวกสบาย มีสถานที่จอดรถอย่างกว้างขวางและสามารถรองรับรถทัวร์ได้
3 ร้านอาหารไร่ภูแสงทอง ที่นี่จะเน้นผักปลอดสารพิษที่ปลูกเองในไร่เป็นหลัก เป็นการปลูกแบบอินทรีย์ที่ได้ใบรับรองมาตรฐานจากกรมวิชาการเกษตร มีทั้งผักสลัด มะเขือ คะน้า กวางตุ้ง ฯลฯ
เมนูเด่น ได้แก่ สลัดหม่ำลุยสวน พร้อมผักตามฤดูกาล
และมีต้มก้าว อาหารประจำอำเภอภูเขียว มีที่เดียวในโลก เป็นต้มยำสไตล์จีน จะต้มกับหมู ขาหมู เป็ด วัว ก็ตามแต่จะมีวัตถุดิบใด
และยังมีผัดหน่อไม้ใส่ไก่ที่อร่อยมาก รวมถึงตำผลไม้รวม อุดมไปด้วยผลไม้ ทั้งแอปเปิ้ลแดง, ฝรั่ง, สับปะรด และองุ่น ตำจนนัวได้รส โรยด้วยถั่วและปลากรอบ
4 อารมณ์ดีฟาร์มคาเฟ่ สัมผัสความเป็นธรรมชาติ และการตกแต่งร้านแนววัยหวาน กับบรรยากาศอบอุ่น
และอาหารที่แสนจะอร่อย มีหลากหลายโซนให้เลือกนั่งกินลม ชมวิว ถ่ายรูปสวยๆ เพลินๆ
ต้มยำปลา หมูมะนาว ฮ่อยจ้อ
และมีสินค้าสุขภาพหลากหลายให้เลือกซื้อ เช่นข้าวออร์แกนิกส์ กระเทียมดำ เป็นต้น
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ชวน Travelista นักเดินทาง มาในทริปนี้
#ททท #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #ทททโคราช #ทททชัยภูมิ #เที่ยวชัยภูมิ #อันซีนชัยภูมิ
เรื่องและภาพโดย Travelista นักเดินทาง
และขอบคุณภาพบางส่วนจากคุณเจริญ ภัทรพิทักษ์