ตอนนี้เป็นแหล่งดินเนอร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่หลายคนไม่พลาด นั่นคือ #สยามยอชท์คลับ @ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน สถานที่แฮงค์เอาท์สุดชิล คลื่นลูกใหม่แห่งสีสันริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กับประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ ที่ผสมผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมของกรุงเก่ากับเสน่ห์แห่งความทันสมัยของเมืองยุคใหม่

สยามยอชท์คลับ คือ มิติใหม่ของร้านอาหารและบาร์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกออกแบบตกแต่งอย่างสวยงามในรูปแบบทันสมัย โดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายให้มีบรรยากาศเสมือนการล่องเรือยอชท์ชมความงามบนท้องทะเล โดยได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกวัฒนธรรมเมืองหลวงในยุคเรืองรอง ที่สองริมฝั่งแม่น้ำแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าของไทยในอดีต

สถานที่ตั้งอยู่บนโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สามารถมองเห็นบรรยากาศที่สวยงามของทั้งฝั่งเมืองเก่าและฝั่งเมืองใหม่ ยังอยู่ใกล้กับถนนเยาวราชและเจริญกรุง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ที่ผสมผสานวัฒนธรรมรวมถึงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมและสมัยได้อย่างลงตัว เช่นอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างไปรษณีย์กลาง (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ TCDC) สะดวกสบายทุกการเดินทางไม่ว่าจะทางบกหรือทางน้ำ (สามารถขึ้น-ลงที่ท่าเทียบเรือของสยามยอชท์คลับ)

ที่นี่มีบรรยากาศสบาย ๆ ที่เหมาะสำหรับพบปะสังสรรค์ของทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นสังสรรค์ในครอบครัว ปาร์ตี้กับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่นั่งชิลล์ผ่อนคลายหลังเลิกงาน

สัมผัสแรกคือความสวยงามโดดเด่นของการตกแต่งภายใน และความสะดวกสบายจากเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องใช้บนโต๊ะ ตามด้วยการสัมผัสได้ถึงกลิ่นเครื่องเทศของไทยและลิ้มรสชาติอาหารที่หลากหลายไปพร้อมกับจิบไวน์ชั้นเลิศระดับโลก เติมเต็มความสุขให้ครบทุกสัมผัสกับการแสดงดนตรีสดที่คอยบรรเลงขับกล่อมที่ช่วยเพิ่มสุนทรียรสของการรับประทานอาหารให้มีอรรถรสยิ่งขึ้น

ทั้งให้ประสบการณ์ใหม่เสมือนการล่องเรือยอชท์ดินเนอร์กลางท้องทะเล สัมผัสกับสุนทรียรสของอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายแบบไม่ซ้ำใคร ที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และเรื่องราววัฒนธรรมการกินของกรุงเทพฯ เมืองหลวงแห่งวิถีทางวัฒนธรรมแห่งอาหารระดับโลกได้ที่ สยามยอชท์คลับ

เอกลักษณ์ของเมนูอาหารที่เชฟรังสรรค์ขึ้น ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องเทศและสมุนไพรที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอาหารในสมัยรัตนโกสินทร์ในยุคที่สยามประเทศเป็นเส้นทางการค้าเมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งคือย่านไชน่าทาวน์ของกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน โดยเชฟนำสมุนไพรและเครื่องเทศเหล่านี้มาผสมผสานกับอาหารนานาชาติยอดนิยมให้เกิดเป็นซิกเนเจอร์จานเด่นที่เป็นสูตรเฉพาะของสยามยอชท์คลับ รวมถึงเครื่องดื่มค็อกเทล ม็อกเทล และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่มิกซ์โซโลจิสต์ของสยามยอชท์คลับรังสรรค์ขึ้นให้มีรสชาติแตกต่างไม่เหมือนใคร

ส่วนโซนการทำอาหารถูกออกแบบเป็นครัวเปิด (open-kitchen) เพื่อให้มองเห็นการทำงานของเหล่าเชฟที่ประสานสัมพันธ์กันในทุกขั้นตอนของปรุงอาหารแบบยุโรปสมัยใหม่ที่ผสมผสานวิธีการปรุงแบบชาวตะวันตกให้เข้ากับวัฒนธรรมการปรุงอาหารแบบเอเชียดั้งเดิม รวมถึงกระบวนการเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายของไทยซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

ส่วนพื้นที่สำหรับรับรองแขก มีโซนที่นั่งให้เลือกทั้งแบบ indoor (ห้องแอร์) และนั่งชิลล์สบาย ๆ ริมแม่น้ำแบบ outdoor เพื่อให้แขกผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและสัมผัสประสบการณ์ในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ในแบบที่เป็นคุณตามใจปรารถนา นอกจากนี้ยังมีห้องวีไอพีสำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกัน สยามยอชท์คลับ ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดได้ได้หลากหลายรูปแบบ

อาหารที่สยามยอชท์คลับเป็นอาหารแนวใหม่ที่มีคอนเซปต์และรูปแบบโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยการนำอาหารน จากการรังสรรค์โดยฝีมือเชฟนุ ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ หัวหน้าเชฟของที่นี่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องเทศและสมุนไพรที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอาหารในสมัยรัตนโกสินทร์ มาผสมผสานกับอาหารนานาชาติยอดนิยมให้เกิดเป็นซิกเนเจอร์จานเด่นที่เป็นสูตรเฉพาะของที่นี่ เช่น 'Temphe' (เทมปุระสไตล์ญี่ปุ่นผสมสมุนไพรและเครื่องเทศไทย)  'SYC ซีฟู้ด ทาวเวอร์' (เซ็ททะเลรวมเสิร์ฟคู่กับซอสสยามยอชท์คลับและหอยนางรมฝรั่งเศส)  ' Calamaretti ' (พาสต้าครีมต้มยำทะเล) ซึ่งมีเสิร์ฟที่สยามยอชท์คลับเท่านั้น 

นอกจากนี้ยังมีเครื่องที่เป็นซิกเนเจอร์ของสยามยอชท์คลับ อาทิ  ‘Pier No.3’ (นำวิสกี้ญี่ปุ่น คาคูบิน และเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ไซรับ มาผสมผสานกันและเสิร์ฟในผลสับปะรดสดทั้งลูก)  ‘Fireboat’ (เป็นการนำเหล้าวอดก้า  มาลิบู คาราเมลไซรับ ขิงสด พริกและหอมแดงมาผสมผสานกัน จนได้ค็อกเทลที่รสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและสมุนไพรไทย)  ‘Maritime’ (เป็นการผสมผสานเหล้าโซจูของเกาหลี  กับอเปโรล เบียงโค่ เวอร์มุต สปาร์คกลิ้งไวน์ 

และเสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมแท่งรสผลไม้ ที่มีให้เลือก 3 รส ได้แก่เสาวรส ลิ้นจี่ สับปะรด)  ‘Catamaran’ (เป็นการนำเหล้ารัมชั้นเลิศของไทย “พระยารัม” มาผสมผสานกับบลูคูราเซา น้ำเชื่อมมะม่วง น้ำเกรปฟรุต ใบสะระแหน่และเสิร์ฟพร้อมกับส้มโอชิ้นใหญ่) รวมทั้งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์เช่น น้ำพันช์ผลไม้ สมูทตี้ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือจะเป็นสูตรเฉพาะในแบบที่คุณโปรดปราน

วันนี้เราได้ชิมหลายเมนู ที่เชฟได้เตรียมให้ในวันที่รีวิว เช่น

1. Lobster Salad  THB 548
2. Banana Blossom  THB 298
3. 3x3 Cheese Baked Oysters THB 458
4. Lobster Capellini  THB 898
5. Mahanakorn Bouillabaisse THB 398
6. Klong Pai Duck leg THB 698
7. Cod Fish Miso Glazed THB 1,498
8. Rib-eye marble score 3+ 300g  THB 1,998
9. Coconut Pannacotta THB 298
10. Hazelnut Crème Brûlée THB 298

Cocktail: Smooth Saliling  

Mocktail : Wind & Wave  / Sailor Booster 

สยามยอชท์คลับ  นับเป็นคอมมูนิตี้แห่งใหม่สุดชิคของคนกรุงเทพฯ ที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกัน เป็นสถานที่นัดรวมตัวกันเพื่อพบปะสังสรรค์ และสนุกเพลิดเพลินกับการฟังดนตรีสดหรือฟังเพลงจากดีเจชั้นนำ สามารถนั่งดื่มนั่งเพลินกันได้ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปจนตลอดคํ่าคืน หรือแม้กระทั่งจัดงานอีเวนท์หรือกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ เช่น กิจกรรมของกลุ่ม LGBTQ+ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ฯลฯ

ด้วยการออกแบบที่สวยงามโดดเด่นของร้านอาหารกับบรรยากาศสบาย ๆ ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงการตกแต่งภายในอย่างหรูหราที่ถูกจัดสรรแบ่งเป็นโซน indoor ที่ภายในมีโซนที่นั่งเก๋ ๆ สำหรับรองรับแขกได้ถึง 40 ที่นั่ง มีบาร์เครื่องดื่มขนาดใหญ่รวมถึงครัวอาหารแบบครัวเปิดและเตาปิ้งย่างแบบยุโรปเพื่อให้แขกมองเห็นทุกขั้นตอนของการปรุงอาหาร ส่วนโซน outdoor ภายนอกสามารถรองรับแขกได้ถึง 150 ท่าน 

อบอวลด้วยบรรยากาศกลางแจ้งสบาย ๆ และวิวริมแม่น้ำแบบพาโนรามา มีโซนที่นั่งสำหรับรับประทานอาหารและโซนที่เป็นเลาจน์ และบาร์เครื่องดื่มสำหรับแขกที่ชอบนั่งชิลล์สบาย ๆ เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศและเครื่องดื่มแก้วโปรดได้ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปจนตลอดค่ำคืน และมีห้องวีไอพีสำหรับ 12 ท่าน สำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

ช่วงนี้สยามยอชท์คลับ เอาใจล็อบสเตอร์เลิฟเวอร์ ด้วยเมนูสุดพิเศษ พร้อมเสิร์ฟแล้ววันนี้ ถึง 30 มิ.ย. 2566

เชฟนุ ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ หัวหน้าพ่อครัวของสยามยอชท์คลับ ได้นำวัตถุดิบชั้นเลิศที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งท้องทะเลอย่าง ล็อบสเตอร์ มารังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษเอาใจคนรักล็อบสเตอร์ ให้ได้ลิ้มลองความอร่อยตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2566

เพลิดเพลินกับเมนูล็อบสเตอร์นำเข้าจากมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ทีมพ่อครัวของสยามยอชท์คลับ บรรจงปรุงอาหารแต่ละจานอย่างพิถีพิถันเพื่อคงความหวานฉ่ำอย่างธรรมชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลายของล็อบสเตอร์ ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารที่แตกต่าง

เลือกอิ่มอร่อยกับเมนูล็อบสเตอร์จานโปรดของสยามยอชท์คลับ อาทิ Lobster Capellini (พาสต้าเส้นแองเจิลแฮร์กับล็อบสเตอร์) 898 บาท Lobster Salad (สลัดล็อบสเตอร์) 548 บาท และเมนูเชฟซิกเนเจอร์ Trio of Lobster (เกี๊ยวล็อบสเตอร์  ล็อบสเตอร์โรล ล็อบสเตอร์ย่างถ่าน) 2298 บาท

นอกจากนี้ สยามยอชท์คลับ ยังเอาใจบรรดาคนรักล็อบสเตอร์ต่อที่สอง สำหรับผู้ที่ต้องการมาปาร์ตี้สังสรรค์กันเป็นหมู่คณะ ไม่ว่าจะเป็นสังสรรค์ในครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน ด้วยข้อเสนอพิเศษดังนี้ (ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2566)

•สำรองที่แบบกลุ่มตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป รับฟรี ซิกเนเจอร์สปาร์คกลิ้งไวน์ Pete’s Pure ท่านละ 1 แก้ว

•สำรองงานฉลองวันเกิดตั้งแต่ 10 คนขั้นไป รับฟรี เค้กวันเกิดพร้อมซิกเนเจอร์สปาร์คกลิ้งไวน์ Pete’s Pure ท่านละ 1 แก้ว

สำหรับท่านใดที่ต้องการมาอุ่นเครื่องนั่งชิลล์เพลิดเพลินกับวิวพาโนรามิกยามเย็นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่จะเต็มอิ่มกับเมนูล็อบสเตอร์มื้อค่ำ สยามยอชท์คลับมีบริการ ซันดาวเนอร์ฟรีโฟลว์ – เครื่องดื่มซิกเนเจอร์แบบไม่อั้น ได้ตั้งแต่เวลา 17.30 – 18.30 น. ในราคาท่านละ 990 บาทสุทธิ

เหล่าล็อบสเตอร์เลิฟเวอร์ไม่ควรพลาด! ลิ้มรสชาติความอร่อยของราชาแห่งท้องทะเล @ สยามยอชท์คลับ ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้คุณแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2566

สยามยอชท์คลับ ตั้งอยู่ที่ #โรงแรมรอยัลออคิดเชอราตัน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึง 01.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง +66 2 266 0123 หรือ https://www.sycbangkok.com/ อีเมลsiamyachtclub@sheraton.com