สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา4จังหวัดอีสานตอนกลาง (มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด – ขอนแก่น - กาฬสินธุ์) ผนึกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย และสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ จัด FAM Trip ร้อยแก่นสารสินธุ์ครั้งที่ 1 มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวอัตลักษณ์กลุ่มจังหวัดและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงคุณค่ากลุ่มร้อยแก่นสารสินธุ์ด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา 4 จังหวัดอีสานตอนกลาง (มหาสารคาม – ร้อยเอ็ด-ขอนแก่น- กาฬสินธุ์ ) โดยการนำของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) และสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ เช่น สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) , สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) , สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) , สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย , สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี ฯลฯ และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เดินทางร่วม FAM Trip ร้อยแก่นสารสินธุ์ครั้งที่ 1(ร้อยเอ็ด-มหาสารคาม-กาฬสินธุ์-ขอนแก่น) ในโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอัตลักษณ์กลุ่มจังหวัดและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงคุณค่ากลุ่มร้อยแก่นสารสินธุ์ด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ทั้งนี้โดยวันแรกได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่กลุ่มทอผ้าไหมบ้านหวายหลึม อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด เป็นหมู่บ้านทอผ้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ในโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) อีกทั้งเป็นศูนย์รวมและจำหน่ายหัตถกรรมพื้นบ้าน เช่น กระเป๋า ผ้าฝ้าย เสื้อผ้าสำเร็จรูป
ซึ่งเกิดจากรวมกลุ่มของชาวบ้านเพื่อหารายได้เสริมช่วงนอกฤดูทำนา โดยมีลวดลายที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของชาวร้อยเอ็ด และยังเป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์มีที่พักรองรับนักท่องเที่ยว
เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสวิถีชีวิตและศิลปวัฒนธรรมของชาวบ้าน นอกจากนี้ยังมีสินค้าพื้นบ้านหลากหลายจัดจำหน่าย เช่น สินค้ากลุ่มจักสาน พืชผักอินทรีย์
จากนั้นไปที่หอโหวด101 หรือ ROI ET TOWER แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ของ จ.ร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดยมีลักษณะโครงสร้างเป็นรูปทรง “โหวด” ซึ่งมีความสูง 101 เมตร
สามารถขึ้นไปชมบรรยากาศยามเย็นและชมวิวเมืองร้อยเอ็ดและบึงพลาญชัยได้แบบ 360 องศา
และยังมีพื้นกระจกใสให้ถ่ายรูปสวย ๆ เหมือนยืนอยู่กลางอากาศ
วันที่ 2 เดินทางไปยังจ.กาฬสินธุ์ นมัสการหลวงปู่ศิลาสิริจันโท ที่ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท
เหล่าศิษยานุศิษย์ได้ประจักษ์แก่สายตาเรื่องพุทธาคม วัตรปฏิบัติ ความเมตตา ความสันโดษ และ เรื่องญาณหยั่งรู้ ที่ท่านสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างน่าอัศจรรย์
แต่ละวันจะมีผู้คนไปกราบไหว้หลวงปู่จำนวนมาก
ไปต่อที่วัดบูรพาโคกเครือ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พระครูโสภณวินัยวัฒน์ (หลวงปู่เวิน คุเณสโก) พระสายกรรมฐาน เพชรน้ำดีเมืองกาฬสินธุ์อีกรูปหนึ่ง
ท่านมีศิษยานุศิษย์จำนวนมาก และยังเป็นสหธรรมมิกขององค์หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ท่านทั้ง 2 อายุเท่ากัน
ทานอาหารกลางวันที่บ้านโฮมและเฮือนคำน้อย คำนาง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ร้านอาหารที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหารอีสาน อาหารตามฤดูกาล ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นนำเสนอไม่ใช่มีแค่รสของอาหาร แต่ยังมีวิถีวัฒนธรรมความงามแบบอีสานแทรกอยู่
เดินทางต่อไปยังพระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เดิมวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ดั้งเดิมของขอนแก่น มีอายุมากว่า 200 ปี
ขณะที่พระมหาธาตุแก่นนครนั้น เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 โดยสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี มีความสวยงามอลังการ และบริเวณยอดพระธาตุจำลองแบบมาจากยอดพระธาตุพนม
จากนั้นร่วมพิธีเปิด Familiarization Trip (FAM Trip) กลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ ครั้งที่ 1 โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอัตลักษณ์กลุ่มจังหวัดและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงคุณค่า กลุ่มร้อยแก่นสารสินธุ์ด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่โรงแรมสยามธาราพาเลซ จังหวัดมหาสารคาม
มีผู้เข้าร่วมได้แก่ นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม , น.ส.สุขณกมล ศุขศาสตร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมหาสารคาม , นางภควัลรัตน์ มณีสร้อย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด , นายอังกินันท์ ยอดแก้ว ผู้ช่วยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดขอนแก่น , นางนิชาภา พิชญาเดชากุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม , นายปริญญา มหาโชติ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม , นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย และนายปรีชา การุณ เจ้าของคณะหุ่นกระติ๊บข้าวมหาสารคาม (หมอลำหุ่น คณะเด็กเทวดา)
วันที่ 3 เดินทางไปยัง เดินทางไปยังวัดพุทธวนาราม หรือวัดป่าวังน้ำเย็น อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม เป็นวัดที่มีความสวยงามมากและมีขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างขวางกว่า 30 ไร่ สร้างขึ้นโดย พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ ผู้เป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระภิกษุผู้เป็นที่เคารพรักของชาวอีสาน
ความโดดเด่นของวัดป่าวังน้ำเย็นคือ เจดีย์ศรีมหาสารคาม องค์ใหญ่สีทองงดงาม มองเห็นสวยเด่นแต่ไกล รวมถึงศาลาการเปรียญไม้ขนาดใหญ่ที่สุด ในประเทศซึ่งใช้เสาไม้ถึง 112 ต้น ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่อง ที่สร้างจากทองคำบริสุทธิ์ 3 องค์ น้ำหนักกว่า 12 กิโลกรัม
แล้วเดินทางต่อไปยังอ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ไร่แสนดีเกษตรทฤษฏีใหม่ และเรียนรู้การแปรรูปผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์และสมุนไพรต่างๆ
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าร้อยแก่นสารสินธุ์ เป็นกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง 4 จังหวัด ถือเป็นใจกลางอีสาน มีทั้งการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม มีวัดที่สำคัญๆ เส้นทางไดโนเสาร์ เกจิอาจารย์ ฯลฯ ซึ่งทั้ง 4 จังหวัดทำโครงการร่วมกันหลายเรื่องเช่นสมุนไพร การท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเชิงอาหาร เป็นต้น โดย 4 จังหวัด มีวัฒนธรรมอีสานที่โดดเด่นและค่อนข้างเข้มแข็ง แม้ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ แต่มีการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา วัฒนธรรม และธรรมชาติ เช่นมหาสารคามมีวัดป่าวังน้ำเย็น เป็นอันซีนนิวแชปเตอร์ของททท. มีไร่แสนดีที่ได้รับความสนใจมาก มีเส้นทางสะพานไม้แกดำ เส้นทางท่องเที่ยวนาดูน เส้นทางท่องเที่ยวกันทรวิชัย เส้นทางโกสุมพิสัย มีสะดืออีสาน เป็นต้น
น.ส.สุขณกมล ศุขศาสตร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า โครงการร้อยแก่นสารสินธุ์ได้รับการจัดสรรงบประมาณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางทำการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน เพราะหากจะขายจังหวัดเดียวอาจดึงดูดได้ไม่เท่าที่ควร จึงนำ 4 จังหวัดมานำเสนอรวมกัน และเนื่องจากทั้ง 4 จังหวัดมีพื้นที่ใกล้เคียงกัน ห่างกันประมาณ 40 กิโลเมตร สามารถท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริปได้ ทั้งมีความน่าสนใจต่างกัน จึงได้จัดทำโครงการนี้เพื่อเผยแพร่ไปยังผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว สื่อมวลชน ว่าเรามีครบทั้งสายมู สิ่งปลูกสร้าง ชุมชน อาหาร ตลาด ถนนคนเดิน เกจิอาจารย์ดังๆ เส้นทางไดโนเสาร์ มีดนตรีไม่เหมือนกัน มาผสมผสานเป็นโปงลาง เรามีหลากหลายให้เลือกสรรจะตรงกับเจนเนอเรชั่นไหน เรียกว่าเราพร้อมเสิร์ฟทุกเมนู
นายปรีชา การุณ เจ้าของคณะหุ่นกระติ๊บข้าวมหาสารคาม (หมอลำหุ่น คณะเด็กเทวดา) กล่าวว่า ที่จริงแล้วเริ่มมีไอเดียตั้งแต่ปี 2549 ทำหนังตะลุงอีสาน มีช่วงหนึ่งที่คิดอยากทำละครเด็ก จากชุมชนวัฒนธรรมต่างๆ และได้สัมผัสกับงานจักสาน ข้าว เครื่องมือจับปลา พอทำละคร เลยนำกระติ๊บข้าวเอามาทำวัสดุหลัก และมีผ้าขาวม้าต่างๆ มีไม้ไผ่มาทำหุ่น เน้นต้นทุนทางวัฒนธรรม กระติบข้าวทำให้วรรณกรรมพื้นบ้านมีชีวิตชีวาขึ้น ทั้งให้เยาวชนได้สืบสานต่อยอดหมอลำ เด็กๆ ได้ฝึกฝนทั้งเรื่องศิลปหัตถกรรม เรียนรู้การร้องหมอลำ เด็กๆ รู้สึกเป็นเจ้าของ ตนได้ถ่ายทอดการเชิดหุ่นให้เด็กๆ มาถึงรุ่นที่ 20 แล้ว และได้แสดงในเทศกาลหุ่นโลกและเทศกาลหุ่นนานาชาติ อีกทั้งในปี 2554 ได้จดบันทึกเป็นหุ่นที่เกิดใหม่ในรัชกาลที่ 9 ตัวอย่างละครที่เล่นเป็นเรื่องวันนี้เป็นสังข์สินไชยเป็นวรรณกรรมพื้นบ้านที่พบอยู่ทั่วไปในอุษาคเนย์
นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย กล่าวว่า การนำผู้ประกอบการจากสมาคมต่างๆ มาร่วมทริป นับได้ว่าเราได้เห็นศักยภาพของพื้นที่ เห็นความน่าเที่ยวของเมืองรองที่ถูกพัฒนาเป็นเมืองน่าท่องเที่ยว ทั้งนี้จะมีการนำลงในรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนพานักท่องเที่ยวมาใน 2 เดือนข้างหน้า เพื่อต่อยอดร้อยแก่นสารสินธุ์ การพัฒนาเมืองรองเป็นเมืองน่าเที่ยว ยังคงมุ่งไปที่การให้องค์ความรู้เป็นเครื่องมือดีที่สุดในภาคท้องถิ่น ยกระดับมาตรฐานการบริการและการท่องเที่ยว ทั้งนี้หลังจากตนได้ลงพื้นที่ มีความมั่นใจเกินร้อยหลังจากทางพื้นที่ได้ดีไซน์ออกแบบเส้นทางแล้ว จะร้อยเรียงนำไปสู่การขายอย่างแท้จริงได้ต่อไป
#ร้อยแก่นสารสินธุ์ #ร้อยเอ็ดขอนแก่นมหาสารคามกาฬสินธุ์ #เที่ยวร้อยเอ็ด #เที่ยวมหาสารคาม #เที่ยวกาฬสินธุ์ #เที่ยวขอนแก่น
#โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอัตลักษณ์กลุ่มจังหวัดและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงคุณค่ากลุ่มร้อยแก่นสารสินธุ์ด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์ #สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมหาสารคาม #ทกจมหาสารคาม #กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา