กลุ่มมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ 8 ไทยแลนด์ การรวมตัวของบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว 8 คน จัดอันดับ 9 สุดยอดที่เที่ยวอาเซียนต้อนรับเออีซีที่กำลังมาถึง ในปี 2559 ดังนี้
1 ทะเลทรายมุยเน่ เวียดนาม
หนึ่งในความงามของอาเซียนนั้นคือ ทะเลทรายแดง (Red Sand Dune) และทะเลทรายขาว (White Sand Dune) ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม หรือ ซาฮาร่าแห่งอาเซียน สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากและอยู่ใกล้ชายทะเลของเมืองมุยเน่ เนินทรายจะเปลี่ยนรูปร่างไปตามแรงลมที่พัดผ่านมา ไม่ไกลกันนักยังมีลำธารนางฟ้า หรือ Fairy Stream ลำธารน้ำสายเล็กๆที่ไหลลัดเลาะผ่านโตรกหน้าผาไปยังทะเล ก่อนแวะชมหมู่บ้านชาวประมงมุยเน่ ชมวิถีชีวิตชาวประมง รวมไปถึงเรือประมงนับร้อยๆ ลำด้วยเรือกระด้งทรงกลมแปลกตา
2. ทะเลเจดีย์ 4,000 องค์ พุกาม เมียนมาร์
พุกามถูกเรียกเป็นเมืองโบราณแห่งทะเลเจดีย์ เก่าแก่ตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 มีแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยงามมาก โดยเฉพาะความยิ่งใหญ่ของเจดีย์จำนวนมากกว่า 4,000 องค์ จนได้รับสมญาว่าเป็นเมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์ บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในประเทศพม่าได้เป็นอย่างดี แต่เดิมนั้นมีมากกว่า 10,000 องค์ ซึ่งเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ความยิ่งใหญ่ณ ที่นี้เกิดจากกษัตริย์พม่านิยมสร้างเจดีย์ เพื่อเป็นการเสริมสร้างสิริมงคลในรัชกาลของพระองค์
3. น้ำตกคอนพะเพ็ง ไนแองการ่าแห่งเอเชีย ลาว
แม่น้ำโขงยิ่งใหญ่แล้ว แต่ยิ่งดูอลังการเมื่อไปเยือนคอนพะเพ็ง น้ำตกที่ขนาดใหญ่ที่สุดในเขตแม่น้ำโขงตอนล่าง ตั้งอยู่บนแก่งหินขนาดใหญ่ขวางกั้นเส้นทางการไหลของแม่น้ำโขงทั้งสาย มีลักษณะต่างระดับกันสูงประมาณ 10 เมตร กระแสน้ำที่ไหนถาโถมลงมามีความรุนแรงมาก จากการที่แม่น้ำโขงแยกออกเป็นหลายสาย ณ บริเวณนั้น ราวกับจะถล่มทลายแก่งหินอย่างดุดันและเกรี้ยวกราด สร้างความตื่นตาน่าประทับใจให้นักท่องเที่ยว ถูกยกย่องเป็นไนแองการ่า แห่งเอเชีย
4. ปราสาทนครวัด กัมพูชา
ศาสนสถานตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 สร้างในพุทธศตวรรษที่ 12 เป็นศาสนสถานประจำพระนครของพระองค์ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธ นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกเลยทีเดียว ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติจนทุกวันนี้ ใช้หินก่อสร้างรวม 600,000 ลูกบาศก์เมตร ใช้แรงงานช้างกว่า 40,000 เชือก และแรงงานคนนับแสนขนหินและชักลากหินมาจากเขาพนมกุเลน ชึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 50 กิโลเมตร
5.ลังกาวี เคเบิ้ล คาร์ มาเลเซีย
ไม่ไกลจากเมืองไทยเท่าใดนัก นี่คือเกาะลังกาวี ประกอบด้วยกลุ่มเกาะเมืองร้อนจำนวน 104 เกาะ ในคาบสมุทรมาเลเซีย เกาะนี้เต็มไปด้วยนิยายปรัมปราสมัยโบราณที่เล่าลือสืบต่อกันมามีทั้งผีสิง นกยักษ์ นักรบผู้กล้าหาญ และนางฟ้าที่สวยงาม รวมถึงเรื่องราวของคำสาป 10 ชั่วอายุคน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าหรือเคเบิ้ล คาร์ ไปสู่ยอดเขา "กูนุง มะจิงจั้ง" ภูเขาทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะลังกาวี เพื่อไปชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลอันดามัน และหมู่เกาะน้อยใหญ่ของไทย ลังกาวีเคเบิ้ลคาร์ หรือกระเช้าลอยฟ้า ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ยิ่งใหญ่ตะการตา และ ถือว่าใหญ่และสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
6.โบราเคย์ ฟิลิปปินส์
โบราเคย์ในภาษาอังกฤษ หรือเรียกว่าโบราไกย์ในภาษาฟิลิปปินส์ ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางทิศใต้ประมาณ 315 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออย่างมากของฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 2012 ได้รับการโหวตจากนิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์ ให้เป็นเกาะที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอันดับหนึ่งของโลก และยังได้รับเลือกให้เป็นจุดมุ่งหมายปลายทางที่สงบเงียบและเป็นแหล่งบันเทิงยามราตรี โบราไกย์ ขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องหาดทรายที่เป็นสีขาวและสะอาดมาก เป็นแหล่งดำน้ำระดับโลก คำว่า "โบรา" (Bora) นั้นเป็นภาษาตากาล็อกแปลว่า "สีขาว" หรือ "นุ่น" "โบราไกย์" (Boracay) หมายถึง "หาดทรายขาว" หรือ "หาดทรายนุ่น"
7.ภูเขาไฟคาวาอีเจน เกาะชวา อินโดนีเซีย
หากอยากท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ แปลกตาแล้วละก็ ต้องไปยังคาวาอีเจน ดินแดนแห่งความลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก ต้องใช้เส้นทางชนบทขึ้นเขาผ่านป่าดงดิบเข้าไปในเส้นทาง ภูเขาไฟ คาวาอีเจนแห่งนี้จัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าค้นหาของอินโดนีเซีย จุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยวนี้ คือ เปลวสีน้ำเงิน ซึ่งต้องดูในช่วงกลางคืนเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาดูในช่วงสายหลังพระอาทิตย์ขึ้นไปแล้ว นักท่องเที่ยวจะนิยมนั่งชมวิวขอบปล่องและทิวทัศน์ทะเลสาปสีเขียวมรกต แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าชมเช่นกัน
8. คาร์โนปี วอล์คเวย์ อุทยานแห่งชาติเทมบูรอง, บรูไน
นี่คือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเชิงอนุรักษ์อันดับหนึ่งของประเทศบรูไน ที่เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด ทั้งผืนป่า ภูเขาสูง ลำธารน้ำใส น้ำตกและทะเลสาบ อุทยานแห่งชาติ Temburong มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ทั้งการเดินป่าชมสัตว์ป่าน้อยใหญ่รวมทั้งพันธ์ที่หายากซึ่งมีอยู่มากมาย และภายในอุทยานก็ยังมีชนชาวพื้นเมืองของบรูไนอาศัยอยู่ มีการล่องแพไปตามแม่น้ำ Temburong การตกปลา แคมป์ปิ้ แต่ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวชอบมากที่สุดน่าจะได้แก่การเดินชมผืนป่าและถ่ายรูปบนสะพานไม้ หรือคาร์โนปี วอล์คเวย์ ซึ่งแขวนตัวสูงเลยยอดไม้ บางครั้งไต่ระดับสูงจนได้สัมผัสละอองเมฆกันเลยทีเดียว
9. การ์เด้นท์ บาย เดอะ เบย์ เกาะเซนโตซ่า Singapore
แม้สิงคโปร์จะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดประเทศหนึ่งในโลก แต่หลายสถานที่ท่องเที่ยวกลับยิ่งใหญ่เกินคาดคิด อย่างเช่น การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ สวนพฤกษศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 250 เอเคอร์ หรือประมาณ 656.5 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณมารีน่า เบย์ ใกล้ๆกับโรงแรมมารีน่า เบย์ แซนด์ส การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ คือสถานที่รวบรวมพรรณไม้นานาชนิดจากทั่วทุกมุมโลก มาจัดแสดงอย่างสวยงามเต็มพื้นที่ ไฮไลท์ท่องเที่ยวอยู่ที่ ฟลาวเวอร์ โดม โดมเรือนกระจกติดแอร์ขนาดใหญ่ และซูเปอร์ทรีส์ ต้นไม้จำลองที่มีความสูงเท่ากับตึก 9-16 ชั้น จำนวนถึง 18 ต้น เชื่อมกันด้วยทางเดินลอยฟ้า ตื่นเต้นเร้าใจสุดๆ
เรื่องโดย สาธิตา โสรัสสะ/ภาพโดย ชาธร โชคภัทระ-สาธิตา โสรัสสะ-ธนะชัย ศรีแสง
ติดตามได้ที่ Facebook/Media & Blogger 8 Thailand